ทุกวันนี้ มีใครบ้างที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อม (Environmental Issues) และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) หากลองพิจารณาในสังคมระดับครอบครัวไปจนถึงระดับประเทศ คงไม่มีใครหนีผลกระทบพ้น และทำให้สองปัญหานี้ เป็นเรื่องที่ผู้คนทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญ
ด้วยสภาพภูมิอากาศแปรปรวน อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จนเลขาธิการองค์การสหประชาชาติต้องประกาศสิ้นสุดยุคภาวะโลกร้อน (Global Warming) และก้าวเข้าสู่ยุคภาวะโลกเดือด (Global Boiling) ส่งผลให้เกิดปัญหามลพิษทั้งในดิน น้ำ และอากาศ ฝุ่น PM2.5 กระทบต่อประชากรโลกและสะเทือนต่อระบบนิเวศโดยรวมทั้งโลก
ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย นักสิ่งแวดล้อม ต่างก็พยายามค้นหาว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้โลกร้อนขึ้นไม่หยุด หรือทำไมจึงไม่สามารถควบคุมปัญหามลพิษได้อย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการที่ภาครัฐของแต่ละประเทศก็ออกกฎหมาย กำหนดนโยบายที่มุ่งเน้นจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง
ส่วนภาคเอกชนเองก็พยายามตอบสนองนโนบายของรัฐ แสดงความรับผิดชอบต่อปัญหา ด้วยการคิดค้น วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมของตนที่อาจเคยถูกตราหน้าว่าทำร้ายโลก ทำลายสิ่งแวดล้อม ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
“น้ำมันเครื่อง” กับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
ที่ผ่านมาแม้ “อุตสาหกรรมน้ำมันเครื่อง” เคยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ด้วยความตระหนักถึงสภาพแวดล้อม ทำให้ผู้ประกอบการในแวดวงอุตสาหกรรมน้ำมันเครื่องไม่ได้นิ่งนอนใจในการปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งก็ไม่เพียงตอบสนองต่อนโยบายและกฎหมายของทางภาครัฐเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เริ่มมีความตระหนักรู้ในเรื่องของมลภาวะรอบตัวที่เกิดขึ้น
การที่ผู้บริโภครู้ปัญหาว่าวิกฤติที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ของตนเอง หรือเกิดจากจุดเล็ก ๆ อย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่เป็นปกติในชีวิตประจำวัน หากไม่เริ่มเปลี่ยนแปลง ท้ายที่สุดผลลัพธ์เลวร้ายก็จะวนกลับมาหาที่ตัวเองแบบที่เป็นอยู่ ส่งผลให้ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะใช้รถพลังงานไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่เป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อน
หากรถพลังงานไฟฟ้า หรือ รถอีวี เป็นเพียงพลังงานทางเลือกหนึ่งเท่านั้น รถบนท้องถนนอีกจำนวนไม่น้อยยังคงเป็นรถเครื่องยนต์สันดาป และ ยังคงมีความต้องการน้ำมันเครื่อง สำหรับรักษาเครื่องยนต์ของตนเอง หากวิธีในการเลือกใช้น้ำมันเครื่อง ของผู้บริโภคในปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนไป มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ซึ่งความต้องการดังกล่าวนับว่าเป็นความท้าทายที่ทำให้ ผู้ประกอบการน้ำมันเครื่องเริ่มหันมาปรับปรุงหรือออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองให้มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม
“อิเดมิตสึ” ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องที่มุ่งมั่นในการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
เมื่อผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องจึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาประสิทธิภาพในการทำหน้าที่หล่อลื่นและปกป้องเครื่องยนต์เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน เพื่อให้เครื่องยนต์สะอาด ลดการปล่อยมลพิษ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
นอกจากนี้ น้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วก็จะต้องปราศจากสารพิษหรือมีความเป็นพิษต่อธรรมชาติให้น้อยที่สุด อาจนำไปรีไซเคิลได้ เพื่อลดการตกค้างของสารเคมีอันตรายที่จะปนเปื้อนอยู่ในดิน น้ำ และอากาศ
บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น ภายใต้แบรนด์ “Idemitsu” จากประเทศญี่ปุ่น ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ตั้งแต่น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล น้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ 2 จังหวะและ 4 จังหวะ ไปจนถึงน้ำมันหล่อลื่นสำหรับระบบเกียร์และระบบเบรก ได้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี จึงมุ่งมั่นที่จะตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
การที่ “อิเดมิตสึ” เป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องชั้นนำที่อยู่คู่คนไทยมานานถึง 55 ปี และการมีความร่วมมืออันดีกับบริษัท อิเดมิตสึ โคซัน จำกัด (มหาชน) จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านน้ำมันเครื่องมากว่า 113 ปี ทำให้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องแบรนด์อิเดมึตสึได้รับการพัฒนาทั้งในเรื่องของนวัตกรรมและคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนวัตกรรมที่ทำให้น้ำมันเครื่องเป็นมิตรทั้งต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่เคย
โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นผลิตภัณฑ์ Idemitsu IFG, IFD และ IRG ซีรีส์ ซึ่งชูนวัตกรรมการขับเคลื่อนสังคมสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ด้วยการลดและชดเชยการปล่อยคาร์บอน มุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยการยืดอายุผลิตภัณฑ์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประหยัดพลังงาน ประหยัดทรัพยากร ลดการสูญเสีย เพื่อเน้นการสร้างคุณค่าและประโยชน์ให้เกิดกับสังคมด้วยการปกป้องสิ่งแวดล้อม รวมถึงเสริมสร้างบทบาทความรับผิดชอบต่อสังคม
น้ำมันเครื่องสูตรใหม่สำหรับรถยนต์สันดาปและรถจักรยานยนต์ ในซีรีส์ IFG, IFD และ IRG จะมีความโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยีนาโนเทเลอร์ (Nono Tailored Oil) ซึ่งจะเพิ่มการปกป้อง รักษาความสะอาด และเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ให้มีคุณภาพสูงสุดตั้งแต่พัฒนามา
สำหรับ IDEMITSU IFG 7, 5, 3 ซีรีส์ จะเป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน IDEMITSU IFD 7 ซีรีส์ เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล และ IDEMITSU IRG 7, 5, 3 ซีรีส์ จะเป็นน้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ น้ำมันเครื่อง IFG 5 และ IRG 5 ยังประสานพลังเทคโนโลยี Quintet Guard 5 ประการ ส่วน IFG 7, IRG 7 และ IFD 7 ประสานพลังเทคโนโลยี Septet Guard 7 ประการ ผลิตภัณฑ์สำหรับรถยนต์ผ่านมาตรฐานระดับสากลของประเทศสหรัฐอเมริกา (API) ส่วนผลิตภัณฑ์สำหรับรถจักรยานยนต์ ผ่านมาตรฐานสากลของประเทศญี่ปุ่น (JASO)
ไม่เพียงเท่านั้น น้ำมันเครื่องจากอิเดมิตสึ ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 14001:2015 ด้านระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม และมาตรฐาน ISO 50001:2018 ด้านระบบการจัดการด้านพลังงาน รวมถึงรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ระดับที่ 3 ระบบสีเขียว (Green System) จากกระทรวงอุตสาหกรรม และรางวัลโครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน ประจำปี 2561 (CSR-DIW Award 2018) จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม
รางวัลเหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขององค์กรที่มีส่วนร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมและอยู่ร่วมกับชุมชนอย่างยั่งยืน ยิ่งช่วยการันตีว่าผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องจากอิเดมิตสึ คือผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน
จะเห็นได้ว่า บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น ภายใต้แบรนด์ “Idemitsu” ประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องและน้ำมันหล่อลื่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงแต่ช่วยลดการก่อมลพิษ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและให้ความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค ว่าการเลือกผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องของ “อิเดมิตสึ” จะทำให้ทุกคนมีส่วนช่วยปกป้องโลกใบนี้จากปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน