สไมล์ลี่ แอสซิสแตนซ์ พร้อมรุกตลาดชูบริการ Call Center ที่เชี่ยวชาญด้านยานยนต์โดยเฉพาะ ต่อยอดสู่การบริหารยานยนต์ครบวงจร 24 ชั่วโมง
- สร้างทีม Call Center ที่เชี่ยวชาญด้านยานยนต์โดยเฉพาะ ทั้งระบบสันดาปและไฟฟ้า พร้อมปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมงในการแก้ปัญหาและเสนอบริการได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
- ล่าสุด ขยายการบริการด้านการบริหารกองรถ (Fleet Management) เพื่อให้บริการที่ครบวงจรแก่ลูกค้าองค์กร
บริษัท สไมล์ลี่ แอสซิสแตนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านบริหารยานยนต์ครบวงจร 24 ชม. เดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยบริการ Call Center ที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้า ชูจุดขายด้วยทีมที่เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ทั้งระบบสันดาปและไฟฟ้า โดยเฉพาะลูกค้าองค์กรที่ต้องการนำบริการ Call Center แก้ปัญหาฉุกเฉิน สนับสนุนงานขายและบริการหลังการขาย สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ล่าสุด ได้ขยายบริการบริหารกองรถให้กับ EV Me บริษัทในเครือ ปตท.
นายยุทธนา หลักบุญ ประธานบริหาร บริษัท สไมล์ลี่ แอสซิสแตนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าขณะนี้ สไมล์ลี่ ฯ ได้ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายได้แก่ กลุ่มลูกค้ายานยนต์ กลุ่มบริษัทประกันภัยรถยนต์ กลุ่มสถาบันการเงิน เป็นต้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มต้นใช้บริการด้าน Call Center เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นหลัก และได้ขยายใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน หรือ Roadside Assistance และมีเครือข่ายให้บริการทั่วประเทศไทย จนทำให้ สไมล์ลี่ฯ ได้รับการยอมรับในตลาดอย่างกว้างขวาง
สไมล์ลี่ แอสซิสแตนซ์ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 6 ล้านบาท การเริ่มต้นดำเนินธุรกิจด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนทั่วประเทศ จากประสบการณ์กว่า 30 ปีในเทคนิคยานยนต์ พบว่าปัญหา Breakdown ของรถยนต์ต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้รถต้องเสียเวลา และมีความร้อนใจ ทุกข์ใจ เพราะรถขับเคลื่อนไปต่อไม่ได้ ทำให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงได้ริเริ่มก่อตั้งทีม Smiley Club ขึ้น หัวใจสำคัญหลัก คือ การให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวผู้ใช้รถเองโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่หากแก้ไขไม่ได้ จึงจะเสนอบริการของสไมล์ลี่ฯ ไม่ว่าจะเป็นการพ่วงแบต การเปลี่ยนยางอะไหล่ การยกลาก ทำให้ผู้ใช้รถอุ่นใจ และสบายใจยิ้มได้เมื่อได้รับบริการจากสไมล์ลี่ฯ สะท้อนหลักการทำงานของทีมสไมล์ลี่ แอสซิสแตนซ์ คือ สไมล์ลี่ฯ จะบริการด้วยรอยยิ้ม
ประกอบกับไม่กี่ปีต่อมา เป็นช่วงที่สังคมไทยกำลังประสบภาวะวิกฤติของการระบาดโควิด19 ที่ต้องรักษาระยะห่าง ช่วงเวลาดังกล่าว ถือเป็นโอกาสที่ สไมล์ลี่ฯ ได้นำเสนอทางออกในการช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ให้กับลูกค้า ทำให้ สไมล์ลี่ฯ ได้รับการยอมรับจากลูกค้าองค์กรต่าง ๆ
“เราคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังขององค์กรต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าขององค์กรเหล่านั้น สไมล์ลี่ฯ คือ Outsource ด้าน Call Center ให้กับธุรกิจซึ่งในช่วงวิกฤติโควิด เรามองว่าวิกฤติคือโอกาสของเรา เพราะทุกคนต้องรักษาระยะห่าง ดังนั้นบริการ Call Center ถือเป็นทางออกของธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องปรับตัวเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในสังคมไทยขณะนั้น และด้วยความพร้อมของทีมงานที่มีพื้นฐานด้านการให้บริการยานยนต์มาเป็นเวลายาวนานมากกว่า 20 ปี ทำให้เราเข้าใจความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ที่เป็นลูกค้าขององค์กรต่าง ๆ และให้คำแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้บริโภคที่ใช้บริการ Call Center ของเราได้อย่างรวดเร็ว” นายยุทธนา กล่าว
นายยุทธนา กล่าวว่าการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้รถยนต์บนท้องถนนได้ 24 ชั่วโมงและมีเครือข่ายให้บริการทั่วประเทศ ภายใต้การบริการของ สไมล์ลี่ฯ ทำให้ลูกค้าขององค์กรต่าง ๆ เกิดความพึงพอใจในบริการขององค์กรเหล่านั้น ซึ่งบริการ Call Center นอกจากจะต้องให้คำปรึกษาและข้อแนะนำที่เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าแต่ละรายจนนำไปสู่การให้บริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเช่น การให้บริการรถยกอย่างมืออาชีพ บริการเปลี่ยนยาง ปะยาง เติมลมยาง เปลี่ยนแบตเตอรี่ ตลอดจนเติมน้ำมันฉุกเฉิน
“ในบางกรณี เราให้ปรึกษากับผู้ใช้บริการด้วยการสอบถามข้อมูลสภาวะแวดล้อมที่ผู้ใช้บริการกำลังประสบอยู่ เช่น กรณีที่ลูกค้าจอดรถบนทางลาดชัน แต่สตาร์ทรถไม่ติดเพราะน้ำมันเหลือก้นถัง ผมแนะนำให้เขาเลื่อนรถมาจอดบนทางราบ เพื่อให้ปั๊มป์ฉีดน้ำมันสามารถสูบน้ำมันเข้าระบบสตาร์ทเครื่องได้ และผู้ใช้บริการรายนั้น สามารถนำรถเข้าสถานีน้ำมันเพื่อเติมน้ำมัน ทำให้ผู้ใช้บริการรายนั้นประทับใจในบริการอย่างมากที่สามารถแก้ไขปัญหาให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น นี่คือตัวอย่างที่เราสามารถให้คำแนะนำจากประสบการณ์อันยาวนานของเรากับลูกค้า” นายยุทธนา กล่าว
ทางด้านนางสาวชนัญชิตา สังข์สุวรรณ ที่ปรึกษาอาวุโส ส่วนบริหารแผนการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่าจากบริการ Call Center ที่ สไมล์ลี่ฯ เริ่มให้บริการ ได้สร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าองค์กร ทำให้ลูกค้าองค์กรเหล่านี้ให้ความไว้วางใจใช้บริการที่ต่อเนื่องจากบริการ Call Center ได้แก่ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง
“ด้วยความประทับใจในบริการ Call Center จากทีม สไมล์ลี่ฯ ลูกค้าเราก็เริ่มถามหาบริการเพิ่มเติมจากเรา และถามว่าเราทำอะไรที่ต่อเนื่องจาก Call Center ได้บ้าง บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนน 24 ชั่วโมง เป็นบริการต่อเนื่องจาก Call Center และล่าสุด ลูกค้าได้ทราบว่าเราสามารถให้บริการบริหารกองรถ เขาก็ให้เราทำเพิ่ม” นางสาวชนัญชิตา กล่าว
นางสาวชนัญชิตา เพิ่มเติมว่า บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVme) เป็นกรณีล่าสุดที่ขยายการใช้บริการจาก Call Center และมอบหมายให้ สไมล์ลี่ฯ บริหารกองรถด้วย โดยทีมงาน สไมล์ลี่ฯ เมื่อได้รับการจองรถของลูกค้าผู้เช่ารถจากระบบ ทีมงานของ Call Center จะประสานกับทีมบริหารกองรถ เพื่อดำเนินการส่งมอบรถตามจุดที่ลูกค้ากำหนดและรับรถกลับตามจุดที่ลูกค้าต้องการ
การใช้บริการ Call Center Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมงและการบริหารกองรถ โดย บริษัท อีวีมี พลัส จำกัด ถือเป็นบริษัทฯ นำร่องที่ยกระดับมาตรฐานการบริการของสไมล์ลี่ฯ โดยมอบความไว้วางใจให้ทีม สไมล์ลี่ฯ ช่วยดูแลด้านงานขายและบริการหลังการขายทั้งหมด นอกจากนี้ สไมล์ลี่ฯ ยังให้บริการ Call Center ในนามของแบรนด์ประกันภัยชั้นนำอีกด้วย ซึ่งรูปแบบการให้บริการสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
“ล่าสุด เราได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ให้ สไมล์ลี่ฯ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินต่อจากทีมช่วยเหลือบนทางยกระดับดอนเมือง โทลล์เวย์ หลังจากสิ้นสุดบริการช่วยเหลือบนทางด่วนดอนเมือง โทลล์เวย์” นางสาวชนัญชิตา กล่าว
“สไมล์ลี่ฯ มีความพร้อมเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลูกค้าที่อยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่ดุเดือดและมีบทบาทมากขึ้นในตลาดรถยนต์ไทย เราเตรียมแผนงานระยะสั้นและระยะยาวไว้แล้ว โดยตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำด้านบริหารยานยนต์ ครบวงจร 24 ชม. คาดว่าภายในปีนี้จะมีการเติบโตของธุรกิจที่ 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” นายยุทธนา กล่าวสรุป
ปัจจุบัน สไมล์ลี่ ฯ มีลูกค้าองค์กรทั้งสิ้น 10 รายได้แก่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) บริษัท อีวีมี พลัส จำกัด บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด บริษัท อาคเนย์แคปปิตอล จำกัด บริษัท บีควิก จำกัด บริษัท อีซี่ อินชัวร์โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท พรีเมี่ยม เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอวีพี อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ส จำกัด และ บริษัท พี-ไบค์ จำกัด
ต่อยอดสู่การบริหารยานยนต์ครบวงจร 24 ชั่วโมง
- สร้างทีม Call Center ที่เชี่ยวชาญด้านยานยนต์โดยเฉพาะ ทั้งระบบสันดาปและไฟฟ้า พร้อมปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมงในการแก้ปัญหาและเสนอบริการได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
- ล่าสุด ขยายการบริการด้านการบริหารกองรถ (Fleet Management) เพื่อให้บริการที่ครบวงจรแก่ลูกค้าองค์กร
บริษัท สไมล์ลี่ แอสซิสแตนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านบริหารยานยนต์ครบวงจร 24 ชม. เดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยบริการ Call Center ที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้า ชูจุดขายด้วยทีมที่เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ทั้งระบบสันดาปและไฟฟ้า โดยเฉพาะลูกค้าองค์กรที่ต้องการนำบริการ Call Center แก้ปัญหาฉุกเฉิน สนับสนุนงานขายและบริการหลังการขาย สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ล่าสุด ได้ขยายบริการบริหารกองรถให้กับ EV Me บริษัทในเครือ ปตท.
นายยุทธนา หลักบุญ ประธานบริหาร บริษัท สไมล์ลี่ แอสซิสแตนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าขณะนี้ สไมล์ลี่ ฯ ได้ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายได้แก่ กลุ่มลูกค้ายานยนต์ กลุ่มบริษัทประกันภัยรถยนต์ กลุ่มสถาบันการเงิน เป็นต้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มต้นใช้บริการด้าน Call Center เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเป็นหลัก และได้ขยายใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน หรือ Roadside Assistance และมีเครือข่ายให้บริการทั่วประเทศไทย จนทำให้ สไมล์ลี่ฯ ได้รับการยอมรับในตลาดอย่างกว้างขวาง
สไมล์ลี่ แอสซิสแตนซ์ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 6 ล้านบาท การเริ่มต้นดำเนินธุรกิจด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนทั่วประเทศ จากประสบการณ์กว่า 30 ปีในเทคนิคยานยนต์ พบว่าปัญหา Breakdown ของรถยนต์ต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้รถต้องเสียเวลา และมีความร้อนใจ ทุกข์ใจ เพราะรถขับเคลื่อนไปต่อไม่ได้ ทำให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงได้ริเริ่มก่อตั้งทีม Smiley Club ขึ้น หัวใจสำคัญหลัก คือ การให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยตัวผู้ใช้รถเองโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่หากแก้ไขไม่ได้ จึงจะเสนอบริการของสไมล์ลี่ฯ ไม่ว่าจะเป็นการพ่วงแบต การเปลี่ยนยางอะไหล่ การยกลาก ทำให้ผู้ใช้รถอุ่นใจ และสบายใจยิ้มได้เมื่อได้รับบริการจากสไมล์ลี่ฯ สะท้อนหลักการทำงานของทีมสไมล์ลี่ แอสซิสแตนซ์ คือ สไมล์ลี่ฯ จะบริการด้วยรอยยิ้ม
ประกอบกับไม่กี่ปีต่อมา เป็นช่วงที่สังคมไทยกำลังประสบภาวะวิกฤติของการระบาดโควิด19 ที่ต้องรักษาระยะห่าง ช่วงเวลาดังกล่าว ถือเป็นโอกาสที่ สไมล์ลี่ฯ ได้นำเสนอทางออกในการช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ให้กับลูกค้า ทำให้ สไมล์ลี่ฯ ได้รับการยอมรับจากลูกค้าองค์กรต่าง ๆ
“เราคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังขององค์กรต่าง ๆ ในการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าขององค์กรเหล่านั้น สไมล์ลี่ฯ คือ Outsource ด้าน Call Center ให้กับธุรกิจซึ่งในช่วงวิกฤติโควิด เรามองว่าวิกฤติคือโอกาสของเรา เพราะทุกคนต้องรักษาระยะห่าง ดังนั้นบริการ Call Center ถือเป็นทางออกของธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องปรับตัวเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในสังคมไทยขณะนั้น และด้วยความพร้อมของทีมงานที่มีพื้นฐานด้านการให้บริการยานยนต์มาเป็นเวลายาวนานมากกว่า 20 ปี ทำให้เราเข้าใจความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ที่เป็นลูกค้าขององค์กรต่าง ๆ และให้คำแนะนำเบื้องต้นแก่ผู้บริโภคที่ใช้บริการ Call Center ของเราได้อย่างรวดเร็ว” นายยุทธนา กล่าว
นายยุทธนา กล่าวว่าการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้รถยนต์บนท้องถนนได้ 24 ชั่วโมงและมีเครือข่ายให้บริการทั่วประเทศ ภายใต้การบริการของ สไมล์ลี่ฯ ทำให้ลูกค้าขององค์กรต่าง ๆ เกิดความพึงพอใจในบริการขององค์กรเหล่านั้น ซึ่งบริการ Call Center นอกจากจะต้องให้คำปรึกษาและข้อแนะนำที่เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าแต่ละรายจนนำไปสู่การให้บริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเช่น การให้บริการรถยกอย่างมืออาชีพ บริการเปลี่ยนยาง ปะยาง เติมลมยาง เปลี่ยนแบตเตอรี่ ตลอดจนเติมน้ำมันฉุกเฉิน
“ในบางกรณี เราให้ปรึกษากับผู้ใช้บริการด้วยการสอบถามข้อมูลสภาวะแวดล้อมที่ผู้ใช้บริการกำลังประสบอยู่ เช่น กรณีที่ลูกค้าจอดรถบนทางลาดชัน แต่สตาร์ทรถไม่ติดเพราะน้ำมันเหลือก้นถัง ผมแนะนำให้เขาเลื่อนรถมาจอดบนทางราบ เพื่อให้ปั๊มป์ฉีดน้ำมันสามารถสูบน้ำมันเข้าระบบสตาร์ทเครื่องได้ และผู้ใช้บริการรายนั้น สามารถนำรถเข้าสถานีน้ำมันเพื่อเติมน้ำมัน ทำให้ผู้ใช้บริการรายนั้นประทับใจในบริการอย่างมากที่สามารถแก้ไขปัญหาให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น นี่คือตัวอย่างที่เราสามารถให้คำแนะนำจากประสบการณ์อันยาวนานของเรากับลูกค้า” นายยุทธนา กล่าว
ทางด้านนางสาวชนัญชิตา สังข์สุวรรณ ที่ปรึกษาอาวุโส ส่วนบริหารแผนการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่าจากบริการ Call Center ที่ สไมล์ลี่ฯ เริ่มให้บริการ ได้สร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าองค์กร ทำให้ลูกค้าองค์กรเหล่านี้ให้ความไว้วางใจใช้บริการที่ต่อเนื่องจากบริการ Call Center ได้แก่ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมง
“ด้วยความประทับใจในบริการ Call Center จากทีม สไมล์ลี่ฯ ลูกค้าเราก็เริ่มถามหาบริการเพิ่มเติมจากเรา และถามว่าเราทำอะไรที่ต่อเนื่องจาก Call Center ได้บ้าง บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนน 24 ชั่วโมง เป็นบริการต่อเนื่องจาก Call Center และล่าสุด ลูกค้าได้ทราบว่าเราสามารถให้บริการบริหารกองรถ เขาก็ให้เราทำเพิ่ม” นางสาวชนัญชิตา กล่าว
นางสาวชนัญชิตา เพิ่มเติมว่า บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด (EVme) เป็นกรณีล่าสุดที่ขยายการใช้บริการจาก Call Center และมอบหมายให้ สไมล์ลี่ฯ บริหารกองรถด้วย โดยทีมงาน สไมล์ลี่ฯ เมื่อได้รับการจองรถของลูกค้าผู้เช่ารถจากระบบ ทีมงานของ Call Center จะประสานกับทีมบริหารกองรถ เพื่อดำเนินการส่งมอบรถตามจุดที่ลูกค้ากำหนดและรับรถกลับตามจุดที่ลูกค้าต้องการ
การใช้บริการ Call Center Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนถนนตลอด 24 ชั่วโมงและการบริหารกองรถ โดย บริษัท อีวีมี พลัส จำกัด ถือเป็นบริษัทฯ นำร่องที่ยกระดับมาตรฐานการบริการของสไมล์ลี่ฯ โดยมอบความไว้วางใจให้ทีม สไมล์ลี่ฯ ช่วยดูแลด้านงานขายและบริการหลังการขายทั้งหมด นอกจากนี้ สไมล์ลี่ฯ ยังให้บริการ Call Center ในนามของแบรนด์ประกันภัยชั้นนำอีกด้วย ซึ่งรูปแบบการให้บริการสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
“ล่าสุด เราได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ให้ สไมล์ลี่ฯ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินต่อจากทีมช่วยเหลือบนทางยกระดับดอนเมือง โทลล์เวย์ หลังจากสิ้นสุดบริการช่วยเหลือบนทางด่วนดอนเมือง โทลล์เวย์” นางสาวชนัญชิตา กล่าว
“สไมล์ลี่ฯ มีความพร้อมเดินหน้ารุกตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลูกค้าที่อยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่ดุเดือดและมีบทบาทมากขึ้นในตลาดรถยนต์ไทย เราเตรียมแผนงานระยะสั้นและระยะยาวไว้แล้ว โดยตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำด้านบริหารยานยนต์ ครบวงจร 24 ชม. คาดว่าภายในปีนี้จะมีการเติบโตของธุรกิจที่ 50% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” นายยุทธนา กล่าวสรุป
ปัจจุบัน สไมล์ลี่ ฯ มีลูกค้าองค์กรทั้งสิ้น 10 รายได้แก่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) บริษัท อีวีมี พลัส จำกัด บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด บริษัท อาคเนย์แคปปิตอล จำกัด บริษัท บีควิก จำกัด บริษัท อีซี่ อินชัวร์โบรคเกอร์ จำกัด บริษัท พรีเมี่ยม เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอวีพี อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ส จำกัด และ บริษัท พี-ไบค์ จำกัด