บริษัท โบลท์(Bolt) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถชั้นนำ เปิดเผยรายงานล่าสุดที่สะท้อนบทบาทสำคัญของอุตสาหกรรมเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน (Ride-hailing) ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย โดยปัจจุบันสามารถสร้างโอกาสทางรายได้ให้ผู้ขับขี่กว่า 500,000 คนทั่วประเทศ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี
จากการศึกษาพบว่า ผู้ขับขี่ที่มีอัตราการให้บริการ 75% สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำในประเทศถึง 250% โดยอุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะสร้างรายได้รวมกว่า 20,000 ล้านบาท พร้อมรายได้ภาษี 33 ล้านบาทต่อปี และยังสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ผ่านการซื้อรถ การเช่าซื้อ และการบำรุงรักษา มูลค่าประมาณ 55,000 ล้านบาทต่อปี
นายณัฐดนย์ สุขศิริฐานันท์ ผู้จัดการประจำโบลท์ ประเทศไทย กล่าวว่า บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง แต่ยังช่วยลดต้นทุนด้านเวลาและสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก โดยจากข้อมูลพบว่า 60% ของผู้ใช้บริการเลือกใช้บริการอย่างน้อยเดือนละครั้ง และ 25% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งช่วยสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 17,800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของอุตสาหกรรมยังเผชิญความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะด้านกฎระเบียบการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะที่ยังไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน รวมถึงความซับซ้อนของกระบวนการและเงื่อนไขในการจดทะเบียน ตลอดจนปัญหาค่าเบี้ยประกันภัยที่อยู่ในระดับสูง
โบลท์ยืนยันพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี ควบคู่กับการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม พร้อมสนับสนุนการพัฒนาระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนสำหรับประเทศไทย