- ยาง Bridgestone Potenza Sport A 1 ได้รับเลือกจาก Audi ให้เป็นยางมาตรฐานติดรถยนต์ไฟฟ้า Audi e-tron GT โฉมใหม่ เป็นการกำหนดมาตรฐานประสิทธิภาพใหม่ด้วยการจัดอันดับในระดับเกรด A ของสหภาพยุโรป (EU) ด้านความต้านทานการหมุนเพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
- ยาง Bridgestone Potenza Sport A ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะด้วยเทคโนโลยี ENLITEN เพื่อส่งมอบสมรรถนะสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้า Audi e-tron GT โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพ ด้านความปลอดภัยและความยั่งยืน
- ยาง Bridgestone Potenza Sport A เป็นยางของบริดจสโตนรุ่นแรกที่ผลิตออกมาในปริมาณมากด้วยวัสดุรีไซเคิลและวัสดุทดแทน2 ถึง 55% ในกระบวนการผลิต โดยได้รับการรับรองจาก International Sustainability and Carbon Certification (ISCC) PLUS
บริดจสโตนผู้นำระดับโลกด้านยางพรีเมียมและโซลูชั่นด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนได้รับเลือกจาก Audi ให้พัฒนายางมาตรฐานติดรถยนต์ไฟฟ้าในตระกูล Audi e-tron GT โฉมใหม่ โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นการสานต่อความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งระหว่างบริดจสโตนและ Audi โดยรถยนต์ของ Audi ทุกๆ หนึ่งในห้าคันที่ผู้ผลิตดำเนินการขายทั่วโลกจะได้รับการติดตั้งยางบริดจสโตน และในฐานะพันธมิตรที่น่าเชื่อถือและการพัฒนายางของบริดจสโตนจึงตอบโจทย์ “สมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้า Audi e-tron GT ได้อย่างลงตัว”
ยางพรีเมียม Bridgestone Potenza Sport A ได้รับการพัฒนาเพื่อเสริมสมรรถนะอย่างเหนือชั้นของรถยนต์ไฟฟ้า Audi e-tron GT โฉมใหม่ โดยยาง Bridgestone Potenza Sport A ได้รับการรับรองการเป็นยางมาตรฐานระดับโลกและยังผ่านการทดสอบที่เข้มงวดจาก Audi ในการส่งมอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้นให้กับรถยนต์ไฟฟ้าล่าสุดของ Audi ในรุ่น S ถึง RS อีกทั้งยังช่วยส่งมอบความปลอดภัยและความยั่งยืน
ยาง Bridgestone Potenza Sport A เป็นยางของบริดจสโตนรุ่นแรกที่ผลิตออกมาในปริมาณมากด้วยวัสดุรีไซเคิลและวัสดุทดแทนถึง 55% ในกระบวนการผลิต โดยได้รับการรับรองจาก International Sustainability and Carbon Certification (ISCC) PLUS 3
“เรารู้สึกภูมิใจที่ได้สร้างความยั่งยืนให้กับสังคมแห่งการเดินทางด้วยยาง Bridgestone Potenza Sport A สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เหนือชั้นและทรงพลังอย่าง Audi e-tron GT โฉมใหม่” คุณ Steven De Bock รองประธานฝ่ายธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ของ Bridgestone EMEA กล่าวเสริมว่า “นวัตกรรมยางของเราได้ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต โดยยาง Bridgestone Potenza Sport A ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือในเชิงกลยุทธ์และมีความน่าเชื่อถือร่วมกับ Audi”
ยาง Bridgestone Potenza Sport A มอบประสิทธิภาพด้านพลังงานได้เป็นอย่างดีในกลุ่มยางระดับเดียวกัน และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังได้รับการจัดอันดับในระดับเกรด A ของสหภาพยุโรป (EU) ด้านประสิทธิภาพความต้านทานการหมุนซึ่งช่วยเพิ่มระยะทางของรถยนต์ไฟฟ้า Audi e-tron GT ได้ถึง 500 กิโลเมตร อีกทั้งยังมอบความปลอดภัยและการควบคุมให้กับผู้ขับขี่โดยได้รับการจัดอันดับ ในระดับ A จากสหภาพยุโรปด้านการยึดเกาะบนถนนเปียก ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพในการตอบสนองของพวงมาลัยที่แม่นยำให้กับรถยนต์ไฟฟ้า Audi e-tron GT ในขณะขับขี่ในโหมดสปอร์ต
ยาง Bridgestone Potenza Sport A ได้รับการออกแบบลายดอกยางด้วยเอกสิทธิ์เฉพาะของบริดจสโตน รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมความแข็งแรง และโครงสร้างของยางที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Audi e-tron GT ซึ่งยางพรีเมียมรุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการควบคุม สมรรถนะ และความนุ่มนวลในการขับขี่
Robin Stettner วิศวกรพัฒนายางที่ AUDI AG กล่าวว่า “ด้วยกำลังสูงสุดถึง 925 แรงม้า จึงทำให้รถยนต์ไฟฟ้า Audi RS e-tron GT เป็นรถที่มีความเร็วสูงซึ่งได้รับการปรับแต่งมาเพื่อการขับขี่ในโหมดสปอร์ต ด้วยสมรรถนะดังกล่าวและการตอบสนองต่อมาตรฐานคุณภาพความปลอดภัยและความยั่งยืนของเรา ผลิตภัณฑ์ Bridgestone Potenza Sport A จึงเป็นยางที่ตอบโจทย์ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
พัฒนายางบนพื้นฐานของความยั่งยืน
ยางพรีเมียม Bridgestone Potenza Sport A ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี ENLITEN ของบริดจสโตน เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติด้านความยั่งยืนและเพื่อการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบโดยไม่ลดทอนความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพการใช้งาน ซึ่งเทคโนโลยี ENLITEN ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการใช้วัสดุหมุนเวียน การใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุทดแทน ซึ่งแพลตฟอร์มเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ยังทำให้บริดจสโตนสามารถตอบสนองความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้า เช่น Audi e-tron GT รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การควบคุมอย่างเหนือชั้น รวมถึงการลดเสียงรบกวนในขณะขับขี่
นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมของบริดจสโตนในการผสมผสานความยั่งยืนและประสิทธิภาพของยาง Bridgestone Potenza Sport A รุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในเส้นทางของบริษัทสู่การใช้วัสดุที่ยั่งยืน 100% ภายในปี พ.ศ. 2593 4
ยาง Bridgestone Potenza Sport A ได้รับการพัฒนาขึ้นในยุโรปซึ่งจะมีขนาด 265/35 R21 101XL Y (ล้อหน้า) และ 305/30 R21 104XL Y (ล้อหลัง) ยางพรีเมียมรุ่นดังกล่าวนี้จะถูกผลิตในโรงงานที่ทันสมัยของบริดจสโตนใกล้กรุงโรม ประเทศอิตาลี ซึ่งได้รับการรับรอง ISCC PLUS ในปี พ.ศ. 2565 โรงงาน Roma แห่งนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 50001 ด้านการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้กระบวนการผลิตยางทั้งหมดของโรงงานยังเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้า 100% โดยไฟฟ้าทั้งหมดมาจากแหล่งพลังงานทดแทน 5 ซึ่งยังถือเป็นการสนับสนุนด้านเป้าหมายความยั่งยืนของบริดจสโตน
*1 ยาง Bridgestone Potenza Sport A ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
*2 ระบบการรับรองที่นำมาใช้คือ ISCC PLUS โดยใช้วิธีการจัดการยอดรวมเป็นห่วงโซ่การคุ้มครองพยานหลักฐานซึ่ง 55% ประกอบด้วยวัสดุที่ได้รับการรับรองจาก ISCC PLUS ซึ่งเป็นวัสดุทดแทน 35% และได้รับการรับรองจาก ISCC Plus และนำกลับมารีไซเคิลได้ใหม่ 20%
*3 ISCC PLUS เป็นมาตรฐานการรับรองที่ใช้ได้ทั่วโลกซึ่งมุ่งเพิ่มความโปร่งใสและการตรวจสอบย้อนกลับของวัตถุดิบทางเลือกตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงลูกค้าปลายทาง
*4 บริดจสโตนหมายถึงวัสดุยั่งยืนซึ่ง:
- มาจากแหล่งทรัพยากรที่มีการจัดหาที่ต่อเนื่อง
- สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจระยะยาว
- มีผลกระทบต่ำต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมตลอดวงจรผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การจัดซื้อไปจนถึงการกำจัด
*5 พร้อมใบรับรองการรับประกันแหล่งที่มา
เกี่ยวกับบริดจสโตน ประเทศไทย:
บริดจสโตน ผู้นำระดับโลกด้านยางรถยนต์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับยาง พร้อมนำเสนอโซลูชั่นด้านการเดินทางที่ปลอดภัยและยั่งยืน และสำหรับประเทศไทย บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด คือหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และบริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการนำเข้า จัดจำหน่าย และทำการตลาดยางรถยนต์ภายใต้แบรนด์บริดจสโตน, ไฟร์สโตน และเดย์ตันแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย บริดจสโตนเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ เรานำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์พรีเมียมที่หลากหลายและโซลูชั่นขั้นสูงซึ่งพัฒนาจากนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาการเดินทาง, การใช้ชีวิต, การทำงาน และการพักผ่อนของผู้คนทั่วโลก