- ศักยภาพในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีนัยสำคัญ: การใช้วัตถุดิบหลักอะลูมิเนียม ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 4 กิโลกรัม ต่อ อะลูมิเนียม 1 กิโลกรัม
- การพัฒนาโลหะผสมอะลูมิเนียม โดยมีสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิล 75 เปอร์เซ็นต์
- ความร่วมมือด้านเทคนิค: สัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลที่ใช้ในโครงการรถยนต์จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
- ห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใส: กระบวนการผลิตสินค้าที่สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบจนถึงการส่งมอบสินค้า
ปอร์เช่ (Porsche) ยกระดับความร่วมมือกับไฮโดร บริษัทผู้ผลิตอะลูมิเนียมสัญชาตินอร์เวย์ เร่งขยายการใช้อะลูมิเนียมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยตัวแทนของทั้งสองบริษัท ได้ทำข้อตกลงในสัญญาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดส่งอะลูมิเนียมขั้นต้น (primary aluminium) ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมไปถึงอะลูมิเนียมที่มีสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลสูง โดยภายใต้กรอบความร่วมมือด้านเทคนิคระหว่างปอร์เช่และไฮโดร กำลังอยู่ในช่วงทดสอบเพื่อให้สามารถใช้อะลูมิเนียมที่มีสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลได้สูงขึ้นอีกในอนาคต โดยปอร์เช่มีเป้าหมายที่จะสร้างสมดุลของคาร์บอนที่เป็นกลางตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะผลิตภายในปี 2030 โดยอะลูมิเนียมถือเป็นส่วนสำคัญในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
สตุ๊ทการ์ท. เมื่อปีที่แล้ว ทั้งสองบริษัทได้ประกาศความร่วมมือเบื้องต้นผ่านหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) และได้มีการระบุเป้าหมายการส่งมอบไว้ชัดเจน โดยปอร์เช่ และซัพพลายเออร์ จะได้รับอะลูมิเนียมที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ มาใช้สำหรับการผลิตรถสปอร์ต ซึ่งจะมีผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ (Ecological Footprint) ด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่น้อยกว่า 4 กิโลกรัม ต่อ อะลูมิเนียม 1 กิโลกรัม ที่สำคัญจะมีการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ในการผลิตวัสดุดังกล่าว ซึ่งทางไฮโดร ในฐานะผู้ผลิตโลหะหลักในประเทศนอร์เวย์ จะใช้ไฟฟ้าที่เกิดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนซึ่งส่วนใหญ่มาจากพลังน้ำ ส่งผลให้ปริมาณการใช้พลังงานเชิงนิเวศวิทยาลดลงถึงประมาณ 75% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของการผลิตอะลูมิเนียมทั่วโลก ซึ่งปริมาณการใช้พลังงานเชิงนิเวศวิทยา หมายถึงปริมาณของก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นจากแหล่งวัตถุ จนถึงการได้ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
ความร่วมมือนี้ไม่เพียงมุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยมลพิษเท่านั้น แต่ยังมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการใช้วัสดุ รีไซเคิลจากเศษวัสดุหลังการใช้งานที่ถูกกำจัดโดยครัวเรือน บริษัท ห้างร้านๆ สถานที่เชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรม และสถาบันต่างๆ หลังจากผลิตภัณฑ์หมดอายุการใช้งาน โดยคาดว่าภายในปี 2027/2028 ไฮโดร จะสามารถจัดหาอะลูมิเนียมที่ลดปริมาณคาร์บอน และมีสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 75% นอกจากนี้ ปอร์เช่และไฮโดร ยังกำลังร่วมกันทดสอบพื้นที่ต่างๆ ของรถยนต์ที่สามารถใช้อะลูมิเนียมที่มีสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลที่สูงขึ้น
บาร์บาร่า เฟรนเคิล (Barbara Frenkel) กรรมการบริหารฝ่ายจัดซื้อ ปอร์เช่ เอจี กล่าวว่า “ความร่วมมือกับไฮไดรนับเป็นก้าวสำคัญสำหรับปอร์เช่ในการเดินหน้าลดคาร์บอนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ความร่วมมือนี้ยังมีส่วนสนับสนุนกระบวนการจัดซื้อที่มีความรับผิดชอบ เนื่องจากขั้นตอนการจัดซื้ออะลูมิเนียมของไฮไดรมีความโปร่งใส”
อีวินด์ คัลเลวิค (Eivind Kallevik) ประธานและซีอีโอ ของนอร์สก์ ไฮโดร (Norsk Hydro) กล่าวว่า “ความร่วมมือกับผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมอย่างปอร์เช่ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของไฮโดรที่อยากจะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมอะลูมิเนียมให้มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวนี้จะทำให้ไฮโดรและปอร์เช่สามารถเดินหน้าผลักดันโซลูชันและโมเดลธุรกิจ ที่จะช่วยขับเคลื่อนการลดคาร์บอนและเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เติบโตต่อไปได้”
เนื่องจากอะลูมิเนียมเป็นวัสดุน้ำหนักเบา จึงมีบทบาทสำคัญมากโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพราะอะลูมิเนียมที่ถูกประกอบขึ้น คิดเป็นประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักทั้งหมดของไทคานน์ (Taycan) โดย โครงสร้างทั้งหมดของรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันนี้ จะทำมาจากอะลูมิเนียม ยกเว้นกันชนหน้าและหลัง
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม รวมทั้งภาพยนตร์ และภาพถ่ายได้ที่ Porsche Newsroom: newsroom.porsche.com