บอร์ด บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) ไฟเขียวแตกไลน์ธุรกิจใหม่ จัดตั้งบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้า ผลิต ประกอบและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า คาดแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ฟากบิ๊กบอส “คณาวุฒิ วรรทนธีรัช” มั่นใจก้าวที่สำคัญสู่ธุรกิจ EV จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและขยายฐานรายได้ สร้าง New S-curve หนุนผลงานเติบโตก้าวกระโดด
นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) (OTO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2566 มีมติจัดตั้งบริษัทย่อยของบริษัทจำนวน 1 บริษัท โดยจะดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท จำนวนหุ้น 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท และมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัท เกี่ยวกับการนำเข้า ผลิต ประกอบ และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า
“เราเชื่อมั่นว่าการขยายธุรกิจไปยังอุตสาหกรรม EV ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน และมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก จะเป็นการเพิ่มโอกาส และช่องทางการขยายฐานรายได้ของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดปัญหามลภาวะและสภาวะโลกร้อนซึ่งมีผลมากขึ้นในทุกวันอีกด้วย”
พร้อมกันนี้ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้ขายหุ้นสามัญในบริษัท ฮินซิซึ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ HS ซึ่งประกอบธุรกิจด้านผลิตงานซิลค์สกรีนเนมเพลท เลเบลสติ๊กเกอร์ และจัดหาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้าให้กับกลุ่มลูกค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในและต่างประเทศ ให้แก่ บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIMAT จำนวน 6,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 3.00 ของหุ้นทั้งหมดใน HS โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 52,500,000 บาท โดยบริษัทฯ มีแผนนำเงินที่ได้รับเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและเป็นเงินหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท รวมถึงเพื่อรองรับการขยายการประกอบธุรกิจ
ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OTO กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 คาดว่าบริษัทฯจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ รวมทั้งธุรกิจ Call Center และ Contact Center ธุรกิจ E-Sport มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ประกอบกับพอร์ตการลงทุนของบริษัทมีแนวโน้มผลประกอบการที่ดีเช่นกัน และเราเชื่อมั่นว่าการเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจ EV จะเป็น New S-curve ให้กับธุรกิจ และเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
ที่มา: ไออาร์เน็ตเวิร์ค