บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ New Defender 75th Limited Edition (ดีเฟนเดอร์ 75 ปี ลิมิเต็ด อิดิชั่น ใหม่) การเฉลิมฉลองความสำเร็จครบรอบ 75 ปีของแลนด์โรเวอร์ด้วยรถยนต์รุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นจำนวนจำกัดและมีเพียง 10 คันในประเทศไทย มาพร้อมสีภายนอกสุดพิเศษและการตกแต่งรายละเอียดที่ไม่เหมือนใคร ราคาจำหน่าย 7,599,000 บาท
พร้อม Land Rover Care นาน 5 ปี ประกอบด้วย การรับประกันคุณภาพ บริการบำรุงรักษาตามระยะ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี ร่วมสัมผัสความพิเศษของ New Defender 75th Limited Edition ได้ที่โชว์รูมรถยนต์แลนด์โรเวอร์ พระราม 4 และศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น 2 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-666-7500 และ www.landrover.co.th
เมื่อปี 1948 รถยนต์ Series I ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานอัมสเตอร์ดัมมอเตอร์โชว์ (Amsterdam Motor Show) และ Defender 75th Limited Edition ก็ถือเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปีของแลนด์โรเวอร์ ด้วยการออกแบบภายนอกที่พิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ ครั้งแรกกับสีภายนอก Glasmill Green สุดโดดเด่น ซึ่งเป็นเฉดสีที่สงวนไว้สำหรับรุ่น 75th Limited Edition โดยเฉพาะ ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วมาในสี Grasmere Green เช่นกัน พร้อมฝาปิดเซ็นเตอร์แคปที่เข้าชุด การตกแต่งภายนอกสมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยกราฟิกฉลอง 75 ปี
Defender ยังคงคุณสมบัติความทนทานและภายในห้องโดยสารที่อเนกประสงค์ไว้ โดยตกแต่ง Cross Car Beam ด้วยการพ่นสีขาวและมีรายละเอียดการสลักกราฟิกฉลอง 75 ปีด้วยเลเซอร์บนฝาปิดเอนด์แคป เบาะนั่งหุ้มด้วย Resist Ebony บริเวณแผงคอนโซลกลางใช้วัสดุ Robustec ที่เป็นโครงสร้างที่แข็งแรงทนทานที่สุดสำหรับรุ่น Defender
นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่เปิดตัว Defender รุ่นใหม่ ลูกค้าต่างก็ตกหลุมรักและยังคงเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากเสมอมา รถยนต์ Limited Edition รุ่นใหม่นี้ เป็นการรวบรวมจิตวิญญาณตลอด 75 ปีที่ผ่านมา โดยเน้นสีและรายละเอียดหลอมรวมกับนวัตกรรมเทคโนโลยี เช่น ระบบไฮบริดใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมด้วยขณะขับขี่ ระบบขับขี่ตามสภาพพื้นผิวถนน ระบบอัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติ และสมรรถนะการขับขี่ในทุกสภาพภูมิประเทศที่ยากจะหาใครเทียบได้”
รุ่น Limited Edition นี้อ้างอิงมาจาก Defender 110 รุ่น HSE ที่มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน นวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงกล้อง 3D แบบรอบทิศทาง ระบบขับขี่ตามสภาพพื้นผิวถนนที่ออกแบบเองได้ ระบบเสียง Meridian ไฟหน้า Matrix LED ระบบอินโฟเทนเมนต์ Pivi Pro ขนาด 11.4 นิ้ว จอแสดงผล Head-Up Display และที่ชาร์จอุปกรณ์แบบไร้สาย ยังมีฟีเจอร์หลังคาผ้าพับได้หรือหลังคาพาโนรามิกแบบเลื่อนได้ และมาพร้อมความสะดวกสบายแบบเหนือชั้น ด้วยเบาะนั่งไฟฟ้า 14 ทิศทางสำหรับทั้งคนขับและผู้โดยสาร ระบบปรับอากาศแบบแยกสามโซน และยางสำหรับการใช้งานในทุกฤดูกาลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด
Defender 75th Limited Edition ใช้ระบบไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) หรือ P400e ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตรที่ให้กำลังแรงถึง 300 แรงม้าพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 105 กิโลวัตต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ 19.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้รถยนต์รุ่น P400e มีขุมพลังรวมถึง 404 แรงม้าจากระบบส่งกำลัง PHEV ขั้นสูง สมรรถนะและการตอบสนองที่ดีเยี่ยมด้วยพลังงานไฟฟ้า นอกเหนือจากการประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษแล้วนั้น Defender P400e ยังให้ความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.6 วินาที อีกทั้งบนเส้นทางขรุขระสามารถใช้แรงบิดทันทีจากมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเพิ่มขีดความสามารถของ Defender ขึ้นไปอีกขั้น
ความเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Limited Edition ช่วยตอกย้ำความมั่นใจว่านี่คือรถรุ่น Defender ที่น่าสะสม โดยได้เปิดตัวพร้อมกับสินค้าไลฟ์สไตล์กลุ่มใหม่ของแลนด์โรเวอร์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ สำหรับคอลเลกชันไลฟ์สไตล์ มีการใช้ธีมสี Grasmere Green และมีการนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย อาทิ กระเป๋าเป้อเนกประสงค์ โมเดลรถต้นแบบ รวมถึง หมวก เสื้อผ้า ที่มีกราฟิก 75 ปีและการออกแบบรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์
Defender ได้รับรางวัลในระดับโลกมาแล้วมากกว่า 50 รางวัล รวมถึง 2020 Car of the Year ของ Top Gear, 2021 SUV of the Year ของ MotorTrend และ Best SUV 2020 ของ Autocar เช่นเดียวกับ ได้รับการจัดอันดับความปลอดภัยให้อยู่ในระดับ 5 ดาวของ Euro NCAP
แลนด์โรเวอร์ถือกำเนิดขึ้นด้วยการเปิดตัวยานยนต์เพียงรุ่นเดียว ปัจจุบันรถยนต์ตระกูล SUV ของเราคือเครื่องพิสูจน์ถึงจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกนวัตกรรมที่ได้สร้างเอกลักษณ์ให้กับแลนด์โรเวอร์มานานกว่า 7 ทศวรรษ ตระกูลต่างๆ ของแบรนด์ประกอบด้วย Defender, Discovery และ Range Rover มอบทั้งประสิทธิภาพ ความสามารถรอบตัว และความหรูหราอย่างเหนือชั้น ซึ่งเป็นการการันตีถึงรากฐานสุดสมบูรณ์แบบสำหรับความสำเร็จตลอด 75 ปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
ที่มา: อินช์เคป (ประเทศไทย)