“บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล” หรือ GPI โชว์ความคืบหน้าการจัดงาน ‘บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023’ (ครั้งที่ 44) ช่วงต้นปีหน้า เผยค่ายผู้ผลิตรถจาก 37 แบรนด์ชั้นนำที่เข้าร่วมงานในปีนี้ ตอบรับทั้งหมดแล้ว รวมทั้งมีแบรนด์ใหม่รถ EV Car จากจีนและสหรัฐอเมริกา แสดงความสนใจจองพื้นที่เพิ่ม คาดหนุนรายได้จัดงานเพิ่มขึ้นกว่า 6%
นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ สายกิจกรรมพิเศษ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดงาน ‘บางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023’ (ครั้งที่ 44) หรือ Bangkok International Motor Show 2023 มหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเตรียมจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2566 ว่าขณะนี้ทางบริษัทฯ เตรียมความพร้อมเดินหน้าสานต่อความสำเร็จของการจัดงานอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดผู้ประกอบการรถยนต์และรถจักรยานยนต์กว่า 37 แบรนด์ชั้นนำซึ่งเข้าร่วมงานในครั้งที่ผ่านมา ได้ตอบรับเข้าจองพื้นที่ในงานที่เตรียมจะจัดขึ้นปีหน้าครบทั้ง 100% แล้ว สะท้อนถึงความมั่นใจต่อแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่เป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ติดต่อเข้ามาจองพื้นที่ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ทั้งแบรนด์จีน ได้แก่ BYD และ NETA ที่ตอบรับเข้าจองพื้นที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการนำเข้ารถกระบะไฟฟ้าอีก 2 ราย รวมถึงแบรนด์ EV Car จากสหรัฐอเมริกา ที่แสดงความสนใจเข้าจองพื้นที่ภายในงานเช่นกัน ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถ (Accessories) ก็ได้แสดงความสนใจจองพื้นที่ล่วงหน้าเข้ามาเป็นจำนวนมาก ตอกย้ำให้เห็นถึงความคึกคักของการจัดงานในปีหน้า หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทำให้บริษัทฯ ได้บริหารจัดการพื้นที่ภายในฮอลล์เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เช่าอีก 2,000 ตารางเมตร และคาดว่ารายได้จากการจัดงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44 จะเติบโตกว่า 6%
“เชื่อว่ามอเตอร์โชว์ 2023 จะเป็นการจัดงานที่คึกคักที่สุดในรอบ 3 ปีนับจากเกิดสถานการณ์ COVID-19 โดยจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของผู้บริโภค และหนุนให้อุตสาหกรรมยานยนต์มีการแข่งขันรุนแรงขึ้น ซึ่งจะเป็นการต่อยอดกระแสจากงานมอเตอร์โชว์ครั้งล่าสุดที่มียอดผู้เข้าชมงานหนาแน่นทุกวัน และมีอัตราการได้รับอนุมัติสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี มองว่าแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วง 2 – 3 ปีข้างหน้า จะยังคงมาจากรถยนต์สันดาป และมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ” นายจาตุรนต์ กล่าว
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย