OMODA รถเอสยูวีรุ่นแรกของ Chery Automobile ที่ออกสู่ตลาดโลก เป็นรถยนต์รุ่นใหม่รุ่นแรกที่พัฒนาภายใต้แนวคิดการออกแบบ “Art in Motion”
“Art in Motion” เป็นแนวคิดการออกแบบที่คิดค้นจากความสมดุลระหว่างการเคลื่อนไหวและการหยุดอยู่นิ่ง ทำให้คนเจเนอเรชั่นใหม่มีพื้นที่ท่องเที่ยวที่อิสระและทันสมัยมากขึ้นโดยไม่ยึดติดอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง ดังนั้น OMODA จึงถูกสรรค์สร้างขึ้นจากหลักการออกแบบของ “แสงและเงา” โดยแสงและเงานั้นจะช่วยนำเสนอช่วงเวลาแห่งความงามที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดระหว่างการจับคู่แสงและเงาที่สมบูรณ์แบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ในยุคสมัยใหม่ทั่วโลก
จุดเด่นของ “Art in Motion” ของ OMODA คือการออกแบบ “การเล่นแสงและเงาของกระจังหน้า” คือ กระจังหน้าเมทริกซ์ตัดไขว้กันแบบทรงเรขาคณิตรูปเพชรที่ขยายจากตรงกลางไปทั้งสองด้าน สร้าง “จักรวาลคู่ขนาน” ออกแบบจากจินตนาการสู่ความเป็นจริงผ่านการจับคู่แสงและเงาที่ลงตัว แนวความคิดของ “จักรวาลคู่ขนาน” มีความคล้ายกับสภาพความเป็นอยู่ของคนรุ่นใหม่ในยุคสมัยใหม่ พวกเขาแสวงหาอิสรภาพและความเป็นอิสระในเกมโซเชียล แบ่งปันความสุขจาก ACGN (Anime, Comic, Game, Novel) ในโลกต่าง ๆ และใช้เทคโนโลยี VR เพื่อสร้างโลกเสมือนจริงของตัวเอง เช่นเดียวกับ “จักรวาลคู่ขนาน” พวกเขาจะเพลิดเพลินไปกับการเดินทางที่เหมือนฝันในขณะที่ได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทาง เป้าหมายของ “Art in Motion” คือ การออกแบบที่ตอบสนองคนเจเนอเรชั่นใหม่ในยุคสมัยใหม่ได้ดีที่สุด เป็นผู้นำเทรนด์การออกแบบรถยนต์ระดับสากล
ในแง่ของการสร้างแบบจำลองตัวรถ ทุกรายละเอียดการออกแบบของ “Art in Motion” จะสะท้อนถึงองค์ประกอบที่ทันสมัย ด้วยอัตราส่วนทองคำของพีทาโกรัส หรือ Golden Ratio ผู้ออกแบบได้ทำให้อัตราส่วนความสูง-ความกว้างของ OMODA แม่นยำถึง 0.8677 เมื่อแสงส่องมาที่ด้านหน้าตัวรถ จะแสดงให้เห็นถึงความงามของแฟชั่นที่ส่งผลต่อภาพอย่างมาก แสงและเงาที่พลิ้วไหว เหมือนกับการแกะสลักของศิลปิน วาดเส้นรอบตัวรถได้อย่างเฉียบคม และสร้างลวดลายที่ยืดหยุ่นพร้อมความรู้สึกแข็งแกร่ง เส้นที่ไหลต่อเนื่องไม่ขาดสายและสิ้นสุดที่ส่วนท้ายของตัวรถเป็นการเล่นกับการเปลี่ยนแปลงของแสงและเงา ช่วยส่งเสริมให้เห็นโครงสร้างตัวรถแบบ fastback ที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ตัวรถดูหรูหราและทันสมัย เปล่งประกายและดูเหมือนขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา และในขณะรถวิ่ง การเคลื่อนไหวของล้อสองสีขนาด 18 นิ้ว ยังช่วยเน้นย้ำถึงความเป็นแฟชั่นและความทันสมัย
ในส่วนของด้านหน้ารถที่มีการออกแบบ “Art in Motion” กระจังหน้าแบบเมทริกซ์ผสานรวมแสงและเงาอย่างกลมกลืน และเป็นประกายระยิบระยับราวกับดวงดาว ไฟหน้า LED แบบไดนามิกที่คมชัดพร้อมการมองเห็นแบบแยกส่วน ไฟที่ตระการตาจะเน้นย้ำบุคลิกของคนหนุ่มสาวที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดและไล่ตามความฝันของตนเอง
หัวใจสำคัญของ “Art in Motion” คือ double-layer sports tail โดยแสงจะส่องที่ Tail รถเพื่อให้เข้ากับแสงและเงาได้อย่างลงตัว ทำให้รถมีความมั่นคงและเบาขึ้นเมื่อขับขี่ ในเวลาเดียวกัน ด้วยพลังของไฟท้ายแบบ X-through LED ไฟเลี้ยว ชุดไฟส่องสว่าง การตกแต่งภายในและหลังคา OMODA แสดงให้เห็นถึงความงามทางศิลปะและแฟชั่นแบบสปอร์ตที่แข็งแกร่ง และสะดุดตามากขึ้น
เมื่อแสงและเงามาบรรจบกันในห้องโดยสาร ทำให้เกิดบรรยากาศที่แตกต่างไปจากเดิม เทคโนโลยีและจินตนาการคือการออกแบบหลักของพื้นที่ห้องโดยสาร เบาะนั่งแบบสปอร์ตสองสีที่เข้าคู่กัน ผสานกับ “ไฟส่องสว่าง 64 สี” ช่วยให้การตกแต่งภายในมีความแฟนตาซีน่าดึงดูดใจมากขึ้น หน้าจอดูเพล็กซ์ขนาด 10.25 นิ้วที่มีการเชื่อมโยงกันแบบไร้ขอบเขต และมีความคมชัดสูงทำให้มองเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษ จุดที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง คือ “ที่จับคริสตัลอิเล็กทรอนิกส์” ของเบาะนั่งคนขับ ที่ซึ่งแสงมาบรรจบกัน ล้อมรอบด้วยเงา ทำให้หลงใหลไปกับการขับขี่ OMODA
ด้วยการกำเนิดแนวคิด “Art in Motion” ทำให้ OMODA กลายเป็นสินค้าแฟชั่นที่ยอดเยี่ยมที่เน้นบุคลิกภาพสำหรับคนขับเจเนอเรชั่นใหม่ในยุคสมัยใหม่ นอกจากนี้ OMODA ยังขับเคลื่อนด้วยจุดแข็งของเทคโนโลยีการขับขี่ระดับโลก ช่วยสร้าง “จักรวาลคู่ขนาน” สำหรับผู้บริโภคทั่วโลกเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่สมบูรณ์แบบแก่ผู้ขับขี่ทุกคน
ที่มา: Chery International