ในช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน หลายคนอาจเป็นกังวลว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้จะสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยหรือไม่บนท้องถนนเมืองไทย ซึ่งระหว่างทางที่ขับไปอาจเจอน้ำท่วมขังรอการระบาย หรือถ้าจะชาร์จรถขณะที่ฝนตกจะทำได้หรือไม่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก จึงขอตอบคำถามที่หลายคนสงสัย พร้อมแนะนำวิธีดีๆ ในการดูแลรักษารถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อมาใช้สอย รวมถึงผู้สนใจที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานสะอาด ซึ่งจะทำให้เข้าใจว่าจริงๆ แล้วการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและยังดูแลง่ายกว่าที่คิด
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ตามปกติในช่วงฝนตก
ในยามฝนตกฟ้าร้อง บางคนอาจไม่กล้าใช้อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าและอาจเป็นห่วงว่าการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าก็ต้องห้ามโดนน้ำไม่ต่างกัน แต่ความจริงแล้วรถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ตามปกติแม้โดนฝน เพราะมอเตอร์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เชื่อมต่อระบบไฟฟ้า ต่างได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีด้วยฉนวนไฟฟ้า รวมถึงมีเซ็นเซอร์ตรวจจับไฟฟ้ารั่ว และระบบป้องกันการลัดวงจรลงดิน (Ground Fault Protection) ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย
สำหรับการขับรถในช่วงฝนตกก็ต้องระวังไม่ต่างจากการขับรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน เช่น ควรขับรถโดยใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพถนนเพื่อควบคุมรถบนถนนที่ลื่น และรักษาระยะห่างจากรถคันหน้ากว่าปกติ โดยรถยนต์ไฟฟ้า 100% ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ อย่าง ORA Good Cat ก็มีระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยกที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่มากขึ้น นอกจากนั้น ยังมีกล่องหุ้มเซลล์แบตเตอรี่ที่แข็งแรง รองรับความปลอดภัยทางไฟฟ้า 5 ด้าน ได้แก่ การป้องกันน้ำ การกัดกร่อน การชน การกระแทก และการเกิดเพลิงไหม้ โดยหากเกิดการชนที่กระทบแบตเตอรี่ รถยนต์จะดับภายใน 50 มิลลิวินาทีเพื่อความปลอดภัย และยังมีการควบคุมอุณภูมิและการระบายความร้อนที่ดี ซึ่งช่วยป้องกันการเผาไหม้ที่อาจเกิดขึ้นเองของแบตเตอรี่ได้เช่นกัน
ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าขณะฝนตกได้อย่างไร้กังวล
ปัจจุบันมีแท่นชาร์จมากมายที่กระจายอยู่ทั่วประเทศซึ่งพร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จรถได้อย่างสะดวกสบายทั้งแบบ DC และ AC สำหรับเกรท วอลล์ มอเตอร์ มีสถานีชาร์จรถยนต์แบบชาร์จเร็วด้วยกระแสไฟ DC หรือ G-Charge Supercharging Station ณ สยามสแควร์ ซอย 7 โดยวางแผนที่จะขยายจุดชาร์จเป็น 55 แห่งทั่วประเทศภายในปีนี้
แท่นชาร์จจากหลายบริษัทได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีตามมาตรฐาน และมีระบบป้องกันหรือที่ครอบซึ่งจะมีช่องที่สามารถระบายน้ำได้ ถึงแม้ในช่วงฝนตกหรือมีน้ำขังที่เต้ารับ ก็วางใจได้ว่าจะไม่มีน้ำขังอยู่ที่บริเวณหัวประจุ รวมถึงมีการติดตั้งระบบตัดไฟรั่วและลงสายดินไว้เช่นกัน นอกจากนั้น ตัวรถส่วนใหญ่ยังมีซีลกันน้ำที่สามารถกันฝุ่นและกันน้ำสาดได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันน้ำฝนกระเด็นเข้าไปยังขั้วชาร์จไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี รวมถึงระบบเซ็นเซอร์จะตัดกำลังไฟฟ้าทันทีหากพบกระแสไฟรั่วไหลในวงจร อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มความปลอดภัยได้ด้วยการสำรวจบริเวณแท่นชาร์จ หัวประจุ และสายไฟทุกครั้งก่อนชาร์จว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ รวมถึงเช็ดทำความสะอาดบริเวณจุดที่ชาร์จให้แห้งก่อนปิดฝา
แม้น้ำท่วม รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังขับได้อย่างอุ่นใจ
พอฝนตกหนัก ปัญหาน้ำท่วมก็สร้างความลำบากใจให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน เพราะนอกจากจะรถติดชวนให้หงุดหงิดแล้ว ยังต้องกังวลว่าน้ำท่วมขังจะทำให้รถหยุดทำงานหรือไม่ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ยังถือว่าเป็นน้องใหม่สำหรับท้องถนนในเมืองไทยที่แสนท้าทาย รวมถึงการติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ใต้ท้องรถที่สัมผัสน้ำได้ทันที แต่ก็ขอให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นสามารถขับเคลื่อนได้อย่างปลอดภัยในสภาวะน้ำท่วม เพราะระบบในรถได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีและป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในระบบ
นอกจากนั้น รถยนต์ไฟฟ้ายังมีการทดสอบ IP Rating (Ingress Protection) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานในการป้องกันของแข็งและของเหลวเล็ดลอดเข้าภายในตัวรถ ซึ่งค่ามาตรฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยทั่วไปอยู่ที่ IP67 การันตีว่าสามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมไม่เกิน 1 เมตรได้ ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที โดย ORA Good Cat นั้นใช้แบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน IP67 เช่นกัน โดยสามารถกันน้ำจากการแช่น้ำความลึกไม่เกิน 1 เมตรได้สูงสุด 30 นาที และยังสามารถกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ และยังสามารถขับลุยน้ำได้ลึกถึง 40 เซ็นติเมตร
อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องขับรถขณะน้ำท่วม ผู้ใช้งานควรเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น ค่อยๆ ขับโดยใช้ความเร็วต่ำ คอยระวังสิ่งกีดขวางบนท้องถนน เช่น ท่อนไม้ หรือก้อนหิน ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับแบตเตอรี่ได้ และพยายามไม่จอดรถค้างไว้เป็นเวลานาน โดยหลังจากที่ขับรถลุยน้ำในระดับสูงและเป็นระยะเวลานาน ผู้ใช้สามารถนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กรถยนต์เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานได้อีกทาง นอกจากนั้น ผู้ใช้งานควรศึกษาคู่มือการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้ดีว่าสามารถป้องกันสิ่งแปลกปลอมได้มากเพียงใดเพื่อที่จะได้ใช้งานรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังสามารถมั่นใจได้ทุกการขับขี่ เพราะนอกจากจะวางใจได้ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานในระดับสากล พร้อมการยกรดับประสบการณ์การบริการ รวมถึงการรับฟังเสียงผู้บริโภคตลอดเวลาเพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ใช้งาน โดยรถยนต์คันใหม่ที่ซื้อจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทุกคันจะมาพร้อมการรับประกันคุณภาพตลอดระยะเวลา 5 ปีหรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร* รวมถึงการรับประกับแบตเตอรี่ EV ตลอดระยะเวลา 8 ปีหรือ 180,000 กิโลเมตร* นอกจากนี้ ยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านทางแอปพลิเคชัน GWM ตลอด 24 ชั่วโมงตลอด 5 ปี* ซึ่งทีมงานมืออาชีพพร้อมที่จะไปให้ความช่วยเหลือถึงจุดเกิดเหตุภายใน 1 ชั่วโมง หรือจะติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน GWM Contact Centre ที่เบอร์ 02-668-8888 ก็ได้เช่นกัน หรือหากต้องการนัดทีมงานจากศูนย์บริการของ GWM ให้ไปตรวจถึงที่หมายก็สามารถนัดหมายบริการ Mobile Service* ได้ทาง Partner Store หรือ GWM Contact Centre ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันทำการ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
ที่มาของข้อมูล:
- ความรู้ยานยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้น, โครงการศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า สถาบันยานยนต์
- รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการ “การศึกษาเทคโนโลยีอุปกรณ์ประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์นั่งที่ใช้พลังงานไฟฟ้า” โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่มา: คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซชิเอทส์