จากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการระบาดของโรคโควิด-19 และต่อเนื่องมาถึงความขัดแย้งของสงครามรัสเซีย-ยูเครน กอปรกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว ย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลายประเภท รวมทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ การส่งมอบรถยนต์ยังทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ยอดขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศยังไม่มีการเติบโต แต่หากมองไปในธุรกิจการขายรถยนต์มือสองกลับไม่อยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น มูลค่าตลาดรถยนต์มือสองมีมูลค่าประมาณ 80,000-90,000 ล้านบาท คาดว่าเติบโตประมาณ 10-15% และแนวโน้มยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง หากตลาดรถยนต์ใหม่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค
นายอนุชาติ ดีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจประมูลรถยนต์รายใหญ่ในประเทศ ให้มุมมองในอุตสาหกรรมรถยนต์มือสอง ในปี 2564 ที่ผ่านมาและแนวโน้มในปี 2565 ถึงแม้จะมีปริมาณยอดขายที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มสินเชื่อของ สถาบันการเงินบ้าง แต่ยอดขายรถยนต์มือสองก็เข้ามาทดแทนการขาดแคลนของรถยนต์ใหม่ที่มีปริมาณผลิตลดลง และยังมีโอกาสเติบโตได้ในปี 2565 โดยสรุปประเด็นสำคัญที่เป็นปัจจัยหนุนธุรกิจรถยนต์มือสอง ดังนี้
1.จากสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศที่ผ่อนคลาย มีแนวโน้มที่ลดลงและการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 และการเตรียมเปิดรับนักท่องเที่ยว เป็นสัญญานที่ดีที่จะทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ เริ่มขยับขยายธุรกิจ และรถยนต์จะเป็นส่วนหนึ่งในการซื้อใช้เพื่อประกอบธุรกิจ
2.จากสถานการณ์การส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่ความต้องการซื้อรถยนต์เพื่อใช้ประกอบธุรกิจเริ่มขยับตัว รถยนต์มือสองยังเป็นทางเลือกของผู้ประกอบการและผู้บริโภค
3.พิจารณาจากราคารถยนต์มือสองในตลาดประมูลรถยนต์มีการขยับตัวสูงขึ้น ในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 2565 ประมาณ 8-10% เพราะความต้องการยังมีในตลาด ในขณะที่ Supply ยังน้อย แต่เมื่อเทียบกับราคารถยนต์ใหม่ และภาวะที่ผู้ซื้อยังมีสภาพคล่องน้อย รถยนต์มือสองยังเป็นทางเลือกที่ดีในสถานการณ์เช่นนี้
4.ด้วยสถานการณ์ที่กลับมาของภาคธุรกิจ ด้วยมาตรการผ่อนคลายการควบคุมโรคโควิด-19 สถาบันการเงินที่เป็นผู้ให้เช่าซื้อเริ่มกลับเข้ามาสนับสนุนสินเชื่อการซื้อขายรถยนต์ น่าจะเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ยอดขายรถยนต์มือสองกลับมาขยายตัวได้
5.ในภาพรวมของรถยนต์มือสองที่ผ่านตลาดการประมูลรถยนต์ ซึ่งถือเป็น Supply ใหญ่ที่สุดของตลาดรถยนต์มือสอง มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 2565 คาดว่าตลาดรถยนต์ที่ผ่านการประมูลจะประมาณ 65,000 คัน และคาดว่าในปี 2565 จะเติบโตจากปี 2564 ประมาณ 10-15% อย่างไรก็ตามอัตราการเพิ่มดังกล่าว ยังถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ปกติ
ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวหลักให้ตลาดรถยนต์มือสองเติบโตได้ และถือว่าธุรกิจรถยนต์มือสองได้รับผลกระทบน้อยมาก พอสรุปได้ด้วยเหตุผล ดังนี้
1.ตลาดรถยนต์มือสองมีการกระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้อย การดำเนินธุรกิจก็ยังสามารถดำเนินการได้ปกติ โดยภาคเกษตรกรรมบางพื้นที่ยังสามารถดำเนินธุรกรรมได้ตามปกติ
2.สถาบันการเงินยังคงสนับสนุนการให้สินเชื่อตลอด และมีแนวโน้มสนับสนุนเพิ่มขึ้น
3.ความต้องการรถยนต์มือสองยังตอบโจทย์ในสภาวะที่เศรษฐกิจยังไม่ดี ทำให้ผู้ซื้อรถยนต์ใช้เงินน้อยลงและนำเงินอีกส่วนหนึ่งไปเป็นทุนในการประกอบธุรกิจได้
การคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ในประเทศปี 2565 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทั้งนี้ รถยนต์ใหม่อาจจะกลับมามียอดขายที่ประมาณ 8.5-9.0 แสนคัน ในขณะที่ยอดขายรถยนต์มือสองก็อาจจะเติบโตได้ประมาณ 10-15 % จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายและการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งผู้ประกอบการเริ่มหันมาฟื้นฟูธุรกิจของตนเองมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการก็คงต้องใช้ความระมัดระวังในการติดตามเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพราะอาจยังมีปัจจัยอื่นที่ไม่สามารถคาดคะเนได้ตลอดเวลา
ที่มา: ที เอ็ม คอมมิวนิเคชั่นส์ แอนด์ แบรนด์ แมเนจเม้นท์