ฟอร์ด ประเทศไทย เผยกระแสตอบรับที่ดีของรถฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ นับตั้งแต่เผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมียอดจองทั้งภายในงานมอเตอร์โชว์จากผู้จำหน่ายทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์รวม 3,503 คัน ณ วันที่ 3 เมษายน 2565
“การเผยโฉมรถฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ ทั้ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ที่ผ่านมา ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า ด้วยความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ ที่ได้รับออกแบบมาให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและยังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะและเอสยูวีในประเทศไทย นอกจากนี้ ฟอร์ดยังได้รับรางวัลเผยโฉมรถยอดเยี่ยมจากทางผู้จัดงาน ส่งผลให้มีผู้ให้ความสนใจเข้าชมรถยนต์ในบูธฟอร์ดเป็นจำนวนมาก และมียอดสั่งจองรถยนต์ฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ ไปแล้วรวม 3,503 คัน” นายวิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว
ฟอร์ดได้เปิดรับจองรถผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ฟอร์ดควบคู่กับการรับจองภายในงานมอเตอร์โชว์และที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ โดยมียอดจองทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมถึง 3 เมษายน 2565 รวม 3,503 คัน แบ่งเป็น
- รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ จำนวน 2,589 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ มีสัดส่วนของรถออฟโรดสมรรถนะสูง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ถึง 1,610 คัน และ เป็นรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นอื่นๆ อีก 979 คัน โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มฟอร์ด เรนเจอร์ คือรุ่นท็อป ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทรค แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ไบเทอร์โบ 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
- ด้านรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มียอดจองทั่วประเทศรวม 914 คัน โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือรุ่นท็อป ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียม+ แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ไบเทอร์โบ 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ในส่วนของรถฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ ที่ฟอร์ดได้เผยโฉมพร้อมประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ประกอบด้วย
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รถกระบะที่ชาญฉลาดที่สุด อเนกประสงค์ที่สุด และสมบุกสมบันที่สุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโฉมใหม่ ไฟหน้าใหม่รูปตัว C ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ดมาพร้อมไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี และบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2 ตัวเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร หรือเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร ทำงานคู่กับเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด โดยมีรุ่นที่เปิดให้จองและราคาราคา ดังนี้
- ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นไวลด์แทรค ราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท
- ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นสปอร์ต ราคาเริ่มต้นที่ 929,000 บาท
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ผสานสมรรถนะเพื่อการผจญภัยเข้ากับความสะดวกสบายอันเหนือระดับ มาพร้อมระยะฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร และระยะระหว่างล้อหน้าและหลังที่เพิ่มขึ้น การปรับแต่งโช้คอัพใหม่ช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่และช่วยให้การควบคุมรถทั้งบนทางเรียบและออฟโรดทำได้ง่ายกว่าที่เคย โดยมีรุ่นที่เปิดให้จองและราคาราคา ดังนี้
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นไทเทเนียมพลัส ราคา 1,854,000 บาท
- ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ รุ่นสปอร์ต ราคา 1,464,000 บาท
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่เพื่อพิชิตทุกเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เป็นครั้งแรก มอบพละกำลังถึง 397 PS ที่ 5,650 รอบต่อนาทีและแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มาพร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่ด้วยโช้คอัพ FOX แบบไลฟ์ วาล์ว Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ซึ่งล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยใช้ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ห้องโดยสารโฉมใหม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อคอออฟโรดตัวจริง เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและหลังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ F-22 Raptor
- ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ราคา 1,869,000 บาท
รถยนต์ฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่จากโรงงานนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งในปีแรก ลูกค้าสามารถจองรถฟอร์ด เจเนอเรชันใหม่ได้ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ฟอร์ด www.ford.co.th และที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ นอกจากนี้ ฟอร์ดยังได้ยกระดับประสบการณ์การซื้อรถ ผ่านช่องทางออน์ไลน์ โดยการใช้เทคโนโลยีอิมเมอร์ซีฟ เอดจ์ ที่มอบประสบการณ์การชมรถเสมือนจริงผ่าน 3D และ AR เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อรถผ่านอุปกรณ์มือถือได้ง่าย โดยเทคโนโลยีนี้เป็นความร่วมมือระหว่างฟอร์ดและกูเกิ้ล
ที่มา: ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์