ฟอร์ดรู้ว่าลูกค้าต้องการรถกระบะที่ชาญฉลาด ห้องโดยสารภายในที่รองรับการใช้งานหลากหลาย และยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ชาญฉลาดที่สุดในตระกูลเรนเจอร์ ด้วยการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ทำให้เจ้าของรถเชื่อมต่อการสื่อสารจากที่บ้าน หรือที่ทำงาน มาสู่รถคู่ใจได้อย่างไร้รอยต่อ
เริ่มจากระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC(R)i 4A เจเนอเรชันใหม่ ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ที่ทำงานเสมือนสมาร์ทโฟน ไปจนถึงแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลแทนแผงหน้าปัดอนาล็อกแบบเดิม ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ จึงสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอบสนองทุกการใช้งานของลูกค้าได้อย่างแท้จริง
“เราได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีเกินคาด จากการออกแบบและเทคโนโลยีอันชาญฉลาดภายในห้องโดยสารของ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่” มร. เกรแฮม เพียร์สัน ผู้อำนวยการโครงการพัฒนาฟอร์ด เรนเจอร์ กล่าว “ฟอร์ด เรนเจอร์ ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดและสร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถกระบะอีกครั้ง ด้วยห้องโดยสารที่หรูหรา ทำให้เห็นว่าผู้ใช้งานรถกระบะก็ยังคงมีพื้นที่ส่วนตัวที่สะดวกสบาย และมีเทคโนโลยีทันสมัยมากมายได้เช่นกัน”
มาตรฐานใหม่ของความชาญฉลาด
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ผสานระบบเชื่อมต่อและเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ล่าสุดของฟอร์ด เพื่อมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าลูกค้าจะใช้รถเพื่อการทำงาน เป็นรถสำหรับครอบครัว หรือการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน
แผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาดใหญ่ 8 นิ้ว แสดงข้อมูลได้อย่างเต็มรูปแบบเหนือกว่าระบบอนาล็อกเดิม นอกจากนี้ หน้าจอควบคุมระบบความบังเทิงแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 10.1 หรือ 12 นิ้ว ยังเพิ่มความหรูหราทันสมัยภายในห้องโดยสาร พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC(R) 4A ที่ตอบสนองการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
เกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter ที่ทำงานร่วมกับระบบเบรกมือไฟฟ้า ซึ่งได้รับการติดตั้งในรถกระบะเป็นครั้งแรก ช่วยยกระดับพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้ดูทันสมัย อีกทั้งยังทำให้พื้นที่ภายในรถดูกว้างขวางยิ่งขึ้นiii
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ยังให้ความสำคัญกับไฟส่องสว่างไปอีกขั้น ด้วยไฟหน้าและหลังแบบแอลอีดีเต็มรูปแบบ และยังมีไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี อีกจุดเด่นที่ฟอร์ดนำมาติดตั้งในรถกระบะเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
แอปพลิเคชันฟอร์ดพาส(TM)ii ยังช่วยให้ลูกค้าเชื่อมต่อการสื่อสารกับรถได้ตลอดเวลาผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบกำหนดการบำรุงรักษารถ การสตาร์ทรถจากระยะไกล การตรวจเช็คตำแหน่งของรถ การแจ้งเตือนสภาพรถเบื้องต้น การล็อคหรือปลดล็อคจากระยะไกล รวมถึงการเปิดเครื่องปรับอากาศในรถด้วยอุณหภูมิที่ตั้งไว้ก่อนหน้า
เทคโนโลยีล้ำสมัยบางส่วนในฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่iii
หน้าจอแสดงผลแบบดิจิทัล
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ เปลี่ยนจากการใช้จอแสดงมาตรวัดค่าต่างๆ เช่น มาตรวัดความเร็วแบบเดิมมาเป็นหน้าจอดิจิทัลขนาด 8 นิ้วที่ผู้ขับขี่ปรับการแสดงผลได้ตามต้องการ พร้อมแสดงภาพเคลื่อนไหวเมื่อสตาร์ทรถและดับเครื่อง รวมถึงแสดงอัตราความเร็วและรอบเครื่องยนต์แบบดิจิทัล และภาพกราฟฟิกจำลองรถแบบสมจริง
ในฟอร์ด เรนเจอร์บางรุ่น ผู้ขับขี่ยังเปลี่ยนหน้าจอให้แสดงข้อมูลที่ต้องการได้หลากหลาย ทั้งเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ รอบเครื่องยนต์ และมาตรวัดพิเศษอื่นๆ รวมถึงเลือกปิดการแสดงผลข้อมูลต่างๆ บนจอได้ด้วย
เพราะฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมโหมดการขับขี่ทั้งบนถนนและแบบออฟโรด หน้าจอแสดงผลจึงแสดงผลการทำงานด้วยภาพเคลื่อนไหวในธีมต่างๆ ที่เปลี่ยนไปตามโหมดในการขับขี่ที่เลือกใช้
ชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมต่อบน SYNC(R) 4A
ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC(R) 4A เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีที่ติดตั้งในฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ โดย SYNC(R) 4A เป็นระบบสื่อสารและความบันเทิงในรถฟอร์ด ที่รองรับการเชื่อมต่อบน Apple CarPlay(TM) และ Android Auto(TM) มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่นการแสดงผลฟีเจอร์ที่ใช้งานล่าสุดก่อนเพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น
หน้าจอขนาดใหญ่
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมหน้าจอสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว หรือ 12 นิ้ว ซึ่งถือว่าเป็นจอที่ใหญ่ที่สุดในเซ็กเมนต์ ให้ผู้ขับขี่เลือกการตั้งค่าหน้าจอแบบแยกส่วนผ่านแป้นสั่งการที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอตลอดเวลา เพื่อแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น ระบบแผนที่นำทาง การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ และอุปกรณ์อื่นๆ
ทีมพัฒนาฟอร์ด เรนเจอร์ เลือกใช้หน้าจอแบบแท็บเล็ตขนาดใหญ่ เพื่อแสดงระบบแผนที่นำทางได้อย่างชัดเจน และยังเหลือพื้นที่ด้านล่างของจอสำหรับแสดงผลอื่นๆ เช่น ระบบปรับอากาศ และระบบควบคุมความบันเทิงอื่นๆ
อัปเดตเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ยังมาพร้อมโมเด็มที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับรถได้อย่างต่อเนื่องผ่านแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส ซึ่งในอนาคต ลูกค้าจะอัปเดตข้อมูลและการทำงานหลายอย่างบนรถได้ผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตซอฟต์แวร์ SYNC(R) 4A หรือการอัฟเดทเพื่อยกระดับคุณภาพ ความสามารถในการขับขี่ และความสะดวกสบายบางรายการได้ โดยไม่จำเป็นต้องนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ
ปุ่มน้อยลง แต่ควบคุมได้มากขึ้น
ระบบการควบคุมการขับขี่รถของฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ได้ถูกย้ายจากแผงหน้าปัดและคอนโซลกลาง ไปอยู่บนหน้าจอ SYNC แทน ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น อาทิ ผู้ขับขี่เพียงเข้าสู่หน้าจอโหมดออฟโร้ดก็มองเห็นเส้นทางการขับขี่ มุมเลี้ยว เนินชัน พื้นลาดเอียง และการควบคุมอื่นๆ ได้ง่ายเพียงกดปุ่มเดียว
นอกจากนี้ การควบคุมอุณหภูมิและระบบความบันเทิงภายในรถก็ยังสามารถสั่งการผ่านหน้าจอ SYNC ได้ และยังมีการติดตั้งปุ่มจริงใต้หน้าจอไว้ด้วย เพื่อการใช้งานที่สะดวกและรวดเร็ว
มองได้รอบทิศทาง
จอทัชสกรีนเชื่อมต่อกับกล้อง 360 องศา เพื่อให้จอดรถได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นในพื้นที่แคบ หรือช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการเดินทางบนสภาพเส้นทางที่มีความสมบุกสมบันเป็นพิเศษ โดยระบบจะทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านหน้ารถ หลังรถ ภาพรอบรถจากมุมสูง รวมถึงจุดบอดต่างๆ เพื่อขับขี่ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
เกียร์แบบใหม่
ทีมวิศวกรติดตั้งระบบเบรกมือไฟฟ้าในฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ บางรุ่นเพื่อให้ผู้ใช้รถได้สัมผัสถึงความล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้มิได้เพียงแต่ทำให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้รถพร้อมรองรับเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะใหม่ๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วยv
แบตเต็มตลอดเวลา
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ ช่วยให้ลูกค้าชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนได้แบบไร้สาย พร้อมเชื่อมต่อกับระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC(R) 4A เมื่อวางมือถือที่แท่นชาร์จไร้สายบริเวณใต้คอนโซลกลาง นอกจากนั้น ยังสามารถชาร์จสมาร์ทโฟนแบบต่อสาย USB หรือใช้ช่องต่อไฟ 12V/240V และอินเวอร์เตอร์iii 400 วัตต์ ที่จ่ายไฟฟ้าเข้ามาในห้องโดยสารได้
เชื่อมต่อมุมสูง
ผู้ขับขี่จำนวนมากนิยมติดกล้องบันทึกการจราจรหน้ารถ ทีมวิศวกรจึงติดตั้งช่องจ่ายไฟ USB Type A ที่ด้านบนกระจกมองหลัง เพื่อเปลี่ยนกระแสไฟฟ้า 12 โวลต์ ให้เป็น 5 โวลต์ รองรับอุปกรณ์ GPS หรือกล้องติดหน้ารถยนต์ได้ และยังใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนได้ โดยที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC(R) 4A
แสงสว่างส่องทาง
สำหรับในบางรุ่นย่อย ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชั่นใหม่ ติดตั้งไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะ รองรับฟีเจอร์อัจฉริยะมากมายทั้งการปรับระดับอัตโนมัติ และระดับแสงตามความการเร่งหรือชะลอความเร็วขณะขับ ยิ่งกว่านั้นไฟหน้ายังสามารถตั้งค่าการหักเหได้ทั้งแบบคงที่ และแบบอัตโนมัติ ไฟสูงก็ได้รับการพัฒนาให้ตัดแสงที่อาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อสายตาของคนขับรถสวนทางมาอีกด้วย
เพียงปลายนิ้วสัมผัส
แอปพลิเคชันฟอร์ดพาสช่วยให้คุณเชื่อมต่อการสื่อสารกับรถฟอร์ดของคุณได้มากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นการเช็คสถานะรถ เช่น ระดับน้ำมันที่เหลือในถัง ระยะทางสะสมที่รถวิ่ง ตำแหน่งรถปัจุบัน หรือแม้กระทั่งการล็อกและปลด ล็อกรถ สตาร์ทรถเพื่อเปิดการใช้งานระบบควบคุมอุณหภูมิภายในรถตามที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะตั้งให้แอร์เย็นในวันที่อากาศร้อนหรือตั้งอุณหภูมิให้อุ่นรอไว้ในวันที่หนาว เพื่อความสบายใจของเจ้าของรถ ในระหว่างการสตาร์ทรถจากระยะไกล ระบบจะล็อกรถและไม่สามารถขับออกไปได้โดยไม่มีกุญแจ
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมกับระบบควบคุมอุณหภูมิแบบใหม่และคอมเพรสเซอร์แบบความเร็วแปรผัน ช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราของระบบปรับอากาศและเพิ่มลดการทำงานของเครื่องยนต์ เพิ่มการประหยัดน้ำมัน โดยผู้ขับขี่ควบคุมระบบควบคุมอุณหภูมิภายในรถได้หลายวิธี ทั้งบนหน้าจอ SYNC(R) 4A หรือปุ่มบริเวณด้านล่างของจอ ระบบเซ็นเซอร์ภายในห้องโดยสารยังมีฟังก์ชั่นตรวจวัดอุณหภูมิและระดับความชื้น เพื่อปรับโหมดและระดับพัดลมได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรักษาอุณหภูมิและความสบายภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าอากาศด้านนอกจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ด เรนเจอร์มาพร้อมกับระบบควบคุมแอร์ด้านหลังบริเวณคอนโซล ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังปรับอุณหภูมิได้เองตามต้องการ หรือตั้งค่าให้ระบบปรับอุณหภูมิตามอัตโนมัติได้ เพื่อความสะดวกสบายมากกว่าที่เคย
ดาวน์โหลดข่าวประชาสัมพันธ์ รูปภาพ และวิดีโอได้ที่ https://media.ford.com/content/fordmedia/img/th/en.html
ที่มา: ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์