บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เชิญชวนลูกค้าร่วมสัมผัสโซลูชันส์พลังงานคาร์บอนต่ำแห่งอนาคตด้วยการเปิดตัวจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายใต้แบรนด์ Shell Recharge ซึ่งเป็นจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสตรง ควิกชาร์จแห่งแรกสำหรับเชลล์ในประเทศไทย ที่สถานีบริการน้ำมันเชลล์บนถนนกาญจนาภิเษก ทั้งนี้ เป็นการผนึกความเชี่ยวชาญของเชลล์ ผู้นำในธุรกิจพลังงานและบีเอ็มดับเบิลยู ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก สนับสนุนการพัฒนาระบบ E-mobility ในไทย เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนด้านพลังงานและรองรับความต้องการการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ จุดบริการใหม่นี้จะช่วยให้ลูกค้าของเชลล์สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระหว่างเดินทางได้ที่สถานีบริการน้ำมันแฟลกชิปของเชลล์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ปัจจุบันโลกกำลังก้าวสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน มีการเปลี่ยนผ่านจากการใช้พลังงานฟอสซิลมาสู่พลังงานทางเลือกที่สะอาดและลดการปล่อยคาร์บอนมากขึ้น แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นแหล่งผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพรายหลักของโลก แต่การพัฒนาแหล่งพลังงานทางเลือกใหม่ๆ อย่างไฟฟ้าก็นับว่ามีความสำคัญเช่นกัน โดยประเทศไทยตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 750,000 คันต่อปีภายในปี 2573 นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังได้ประกาศแผนแม่บทที่จะผลักดันให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางยานพาหนะไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2568 และขยายความร่วมมือกับพันธมิตรจากหลายภาคส่วนเพื่อเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ[1]
เชลล์มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาดอื่นๆ ผ่านการขยายเครือข่ายการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 60,000 สถานีทั่วทวีปยุโรป และได้นำความเชี่ยวชาญดังกล่าวมาสนับสนุนความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน
นายเรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย รักษาการกรรมการบริหาร ธุรกิจการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เชลล์นำเสนอโซลูชั่นใหม่สำหรับการเดินทาง ที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เรานำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ในการให้บริการจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยภายใต้แบรนด์ Shell Recharge ด้วยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลกอย่างบีเอ็มดับเบิลยู และแบรนด์ BMW ChargeNow ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เราในฐานะผู้นำนวัตกรรมพลังงานในประเทศไทย Shell Recharge พร้อมที่จะเป็นผู้ให้บริการจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารายหลักที่ได้รับความไว้วางใจภายในประเทศ ควบคู่ไปกับการส่งมอบน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงจากเชลล์ต่อไป”
มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเชลล์ในการเปิดตัวจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ เรามีความร่วมมือที่ดีกับเชลล์มาอย่างต่อเนื่องในระดับโลก และวันนี้เราพร้อมที่จะก้าวไปสู่ความยั่งยืนด้านพลังงานด้วยโซลูชั่นการเดินทางสำหรับอนาคตพร้อมกับเชลล์ ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก บีเอ็มดับเบิลยูให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนในประเทศไทยตลอดมา โดยเรานำเสนอยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าทั้งในรูปแบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หลากหลายรุ่นให้แก่ผู้ขับขี่ในประเทศไทย และยังร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ ChargeNow เพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งเปิดกว้างให้แก่ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นทุกแบรนด์ ความร่วมมือกับเชลล์ในครั้งนี้เป็นการร่วมเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยสถานีแห่งนี้ นับเป็นจุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสตรงแบบควิกชาร์จ (DC Quick Charger) แห่งแรกของ BMW ChargeNow อีกด้วย เราจึงเชื่อมั่นว่าโครงการความร่วมมือนี้ จะช่วยสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับประเทศไทย เพื่อเดินหน้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน”
ปัจจุบันจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Shell Recharge in partnership with BMW ChargeNow ให้บริการได้ทั้งหมด 3 หัวจ่าย ทั้งในแบบ DC Quick Charge กระแสไฟตรง ที่เป็นหัวชาร์จ CHAdeMO และ CCS Type 2 จำนวน 2 หัวจ่าย สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ 0-80% ภายใน 30 นาที และในแบบ AC Normal Charge กระแสไฟสลับ 1 หัวจ่าย ที่สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ภายใน 3-4 ชั่วโมง โดยจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟฟ้าอยู่ที่ 50 กิโลวัตต์นี้สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ทุกแบรนด์ ทั้งนี้รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ ในระยะแนะนำบริการจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าดังกล่าว เชลล์เปิดให้บริการสำหรับลูกค้าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ก่อนนำเสนออัตราค่าบริการที่เหมาะสมในระยะต่อไป
ที่มา: ครินบอร์น คอมมิวนิเคชั่นส์