รถสปอร์ตสมรรถนะสูงเจเนอเรชั่นที่ 7 ‘ปอร์เช่ 911 จีที 3 (992)’ [Porsche 911 GT3 (992)] วางใจเลือกติดตั้ง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ’ (MICHELIN Pilot Sport Cup) เป็นยางมาตรฐานติดรถ โดยมียาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ คอนเนคท์’ (MICHELIN Pilot Sport Cup 2 R Connect) เป็นทางเลือกสำหรับติดตั้งโดยตัวแทนจำหน่ายในกรณีที่ผู้ขับขี่ต้องการรีดสมรรถนะบนสนามแข่งให้ถึงขีดสุด
ในการทดสอบขับขี่บนสนามแข่งเนือร์บวร์ค-ริง ลูปเหนือ (Nuerburgring Nordschleife) ประเทศเยอรมนี ระยะทาง 20.8 กิโลเมตร ‘ปอร์เช่ 911 จีที 3’ รุ่นล่าสุดซึ่งติดตั้งยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ คอนเนคท์’ ทำเวลาต่อรอบอยู่ที่ 6 นาที 59.927 วินาที โดยเมื่อขับขี่ที่ระยะทางรอบสนาม 20.6 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่นิยมใช้บันทึกเวลาอ้างอิง สามารถทำเวลาต่อรอบได้ดีเยี่ยมเช่นเดียวกันอยู่ที่ 6 นาที 55.2 วินาที
รถที่ใช้ลงสนามทดสอบดังกล่าวขับขี่โดยนักขับทดสอบของค่ายปอร์เช่ ‘ลาร์ส เคิร์น’ (Lars Kern) โดยติดตั้งยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ คอนเนคท์’ ขนาด 255/35 ZR 20 เป็นยางล้อหน้า และขนาด 315/30 ZR 21 เป็นยางล้อหลัง ทั้งนี้ รถที่ผลิตจากโรงงานเพื่อทำตลาดทั่วไป (Production Car) จะติดตั้ง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2’ เป็นยางมาตรฐาน โดยใช้ยางขนาดเดียวกันกับที่ใช้ขับทดสอบ
ระหว่างเตรียมการเพื่อขับทดสอบบนสนามแข่งเนือร์บวร์ค-ริง ‘ปอร์เช่’ ได้ทดสอบยางจากผู้ผลิต 3 ราย ณ สนามแข่งฮอคเคนไฮม์ (Hockenheim) ก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้ ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ คอนเนคท์’ เนื่องจากเป็นยางที่ให้สมรรถนะดีที่สุดบนสนามแข่ง
ลาร์ส เคิร์น กล่าวหลังทำเวลาต่อรอบแล้วเสร็จว่า “รถปอร์เช่ 911 จีที 3 รุ่นล่าสุด และยางมิชลิน เป็นการจับคู่ที่ให้ความรู้สึกสมดุลขณะขับขี่ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ นอกจากนี้ ยังไม่เพียงให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะที่สูงมาก แต่ยังให้การตอบสนองและการบังคับควบคุมที่เหนือระดับ”
ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ คอนเนคท์’ พัฒนาขึ้นเพื่อผู้ขับขี่ที่ต้องการรีดสมรรถนะสูงสุดระหว่างการใช้งานบนสนามแข่ง โดยผสานโครงยางที่ต่อยอดมายางรุ่น ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2’ เข้ากับสูตรเนื้อยางที่พัฒนาขึ้นเพื่อการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตโดยเฉพาะ ยางรุ่นนี้พร้อมสำหรับติดตั้งร่วมกับเซ็นเซอร์ ‘มิชลิน แทร็ค คอนเนคท์’ (MICHELIN Track Connect Sensors) ซึ่งสามารถช่วยเชื่อมต่อยางเข้ากับแอพพลิเคชั่น ‘มิชลิน แทร็ค คอนเนคท์’ บนโทรศัพท์มือถือ (MICHELIN Track Connect Smartphone Application) ได้ แอพพลิเคชั่นนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามสถานะแรงดันลมยางได้ตลอดเวลาชนิดนาทีต่อนาที เพื่อให้สามารถปรับแรงดันลมยางรองรับการขับขี่ด้วยสมรรถนะสูงสุดบนสนามแข่ง
สำหรับยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2’ รุ่นมาตรฐานติดรถได้รับการออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ ‘ปอร์เช่ 911 จีที 3’ รุ่นล่าสุด โดยยางล้อหน้าและล้อหลังใช้เนื้อยางสูตรพิเศษ 2 แบบ (Dual Rubber Compounds) ที่พัฒนาขึ้นใหม่
นอกจากนี้ ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2’ ยังใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสำหรับการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับสูงสุดของโลก โดยเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกถ่ายทอดภายใต้แนวคิด “จากสนามแข่งสู่ท้องถนน” (Track to Street) ของมิชลิน เพื่อให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนทั่วไปได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติด้านความทนทาน สมรรถนะการยึดเกาะ การบังคับควบคุม ตลอดจนความปลอดภัยขั้นสูงสุดในการใช้งานประจำวัน ทั้งยังสามารถใช้งานบนสนามแข่งท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความกดดันสูงได้ด้วย
เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ปอร์เช่ และ มิชลิน ได้ขยายระยะเวลาของข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกัน ต่อไปอีก 4 ปี โดยความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงครอบคลุมการพัฒนายานยนต์ที่ผลิตขึ้นเพื่อทำตลาดทั่วไป แต่ยังรวมถึงความร่วมมือด้านมอเตอร์สปอร์ตด้วย ทั้งนี้ มิชลินรั้งตำแหน่งพันธมิตรแต่เพียงรายเดียวของ ‘ปอร์เช่ มอเตอร์สปอร์ต’ ในรายการแข่งขัน ‘กรัน ตูริสโม’ (Gran Turismo: GT), ‘เวิลด์ เอ็นดูแรนซ์ แชมเปี้ยนชิพ’ (World Endurance Championship: WEC) ตลอดจนการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับนานาชาติ ‘ปอร์เช่ วัน-เมค คัพ’ (Porsche One-Make Cup) รายการหลักๆ ของปอร์เช่ อาทิ ‘ปอร์เช่ โมบิล 1 ซูเปอร์คัพ’ (Porsche Mobil 1 Supercup) นอกจากนี้ ยังได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการอื่นๆ ที่มุ่งเน้นเรื่องความยั่งยืนทุกด้านซึ่งจะจัดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย
ยางมาตรฐานติดรถ
ยางล้อหน้า: 255/35 ZR 20 MICHELIN Pilot Sport Cup 2 N0
ยางล้อหลัง: 315/30 ZR 21 MICHELIN Pilot Sport Cup 2 N0
ยางทางเลือกสำหรับติดตั้งโดยตัวแทนจำหน่าย
ยางล้อหน้า: 255/35 ZR 20 MICHELIN Pilot Sport Cup 2 R Connect N0
ยางล้อหลัง: 315/30 ZR 21 MICHELIN Pilot Sport Cup 2 R Connect N0
เกี่ยวกับมิชลิน
มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมการให้บริการทางดิจิทัลการจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 170 ประเทศ โดยมีพนักงาน 127,000 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิตยาง 69 แห่ง ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 200 ล้านเส้นในปี 2562 คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th
ที่มา: สยาม มิชลิน